บันทึกและแบ่งปันงานของคุณ

หมายเหตุ ตั้งแต่เวอร์ชัน 2020.4 เป็นต้นไป คุณสามารถสร้างและแก้ไขลำดับงานใน Tableau Server และ Tableau Cloud ได้ด้วย เนื้อหาในหัวข้อนี้จะปรับใช้กับทุกแพลตฟอร์ม เว้นแต่จะระบุไว้โดยเฉพาะ

คุณสามารถบันทึกการทำงานของคุณด้วยตนเองในจุดใดก็ได้ในลำดับงานของคุณ หรือให้ Tableau บันทึกให้โดยอัตโนมัติก็ได้เมื่อคุณสร้างหรือแก้ไขลำดับงานบนเว็บ มีความแตกต่างบางประการเมื่อทำงานกับลำดับงานบนเว็บ

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเขียนโฟลว์บนเว็บ โปรดดู Tableau Prep บนเว็บ ในส่วนความช่วยเหลือของ Tableau Server(ลิงก์จะเปิดในหน้าต่างใหม่) และ Tableau Cloud(ลิงก์จะเปิดในหน้าต่างใหม่)

Tableau Prep BuilderTableau Prep บนเว็บ
  • ดูตัวอย่างข้อมูลในลำดับงานของคุณใน Tableau Desktop
  • ใส่การเชื่อมต่อไฟล์โดยตรงในอินพุตของลำดับงานของคุณ หรือทำไฟล์ของคุณเป็นแพ็กเกจและเผยแพร่ลำดับงานแบบแพ็กเกจไปยังเซิร์ฟเวอร์ของคุณ
  • ส่งลำดับงานของคุณไปยังไฟล์ เผยแพร่ไปยังแหล่งข้อมูลหรือฐานข้อมูล (ตั้งแต่เวอร์ชัน 2020.3.1 เป็นต้นไป)
  • สร้างและแก้ไขลำดับงานบนเว็บ
  • อัปโหลดไฟล์สำหรับอินพุตลำดับงานของคุณและเชื่อมต่อไปยังแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย
  • ส่งลำดับงานของคุณไปยังแหล่งข้อมูลหรือฐานข้อมูลที่ได้รับการเผยแพร่

เพื่อรักษาข้อมูลให้เป็นปัจจุบันเสมอ คุณสามารถเรียกใช้ลำดับงานของคุณจาก Tableau Prep Builder หรือจากบรรทัดคำสั่งด้วยตัวเองได้ คุณยังสามารถเรียกใช้ลำดับงานที่เผยแพร่บน Tableau Server หรือ Tableau Cloud ด้วยตนเองหรือโดยการกำหนดกำหนดการ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเรียกใช้ลำดับงาน โปรดดู เผยแพร่โฟลว์ไปยัง Tableau Server หรือ Tableau Cloud

บันทึกลำดับงาน

ใน Tableau Prep Builder คุณสามารถบันทึกลำดับงานของคุณเพื่อสำรองงานด้วยตัวเองก่อนการดำเนินการใดๆ เพิ่มเติมได้ ลำดับงานของคุณจะบันทึกอยู่ในรูปแบบไฟล์ลำดับงาน Tableau Prep (.tfl)

คุณยังสามารถทำไฟล์ในเครื่องของคุณ (Excel, ไฟล์ข้อความ และการแยกข้อมูล Tableau) เป็นแพ็กเกจด้วยลำดับงานเพื่อแบ่งปันให้ผู้อื่นโดยไม่ต่างกับการทำเวิร์กบุ๊กเป็นแพ็กเกจเพื่อแบ่งปันใน Tableau Desktop ได้อีกด้วย เฉพาะไฟล์ในเครื่องเท่านั้นที่สามารถทำเป็นแพ็กเกจด้วยลำดับงานได้ ข้อมูลจากการเชื่อมต่อฐานข้อมูลจะไม่สามารถทำเป็นแพ็กเกจได้ เป็นต้น

ในการเขียนเว็บ ไฟล์ในเครื่องจะได้รับการทำเป็นแพ็กเกจโดยอัตโนมัติด้วยลำดับงานของเรา ยังไม่มีการรองรับการเชื่อมต่อไฟล์โดยตรงในตอนนี้

เมื่อคุณบันทึกลำดับงานแบบแพ็กเกจ ลำดับงานจะได้รับการบันทึกเป็นไฟล์ลำดับงาน Tableau แบบแพ็กเกจ (.tflx)

  • เพื่อบันทึกลำดับงานของคุณด้วยตัวเอง ให้เลือกไฟล์ > บันทึกจากเมนูด้านบน

  • เพื่อทำไฟล์ข้อมูลของคุณเป็นแพ็กเกจด้วยลำดับงานใน Tableau Prep Builder ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้จากเมนูด้านบน

    • เลือกไฟล์ > ส่งออกลำดับงานที่ทำเป็นแพ็กเกจ

    • เลือก ไฟล์ > บันทึกเป็น จากนั้นในกล่องโต้ตอบบันทึกเป็น ให้เลือกไฟล์ลำดับงาน Tableau ที่ทำเป็นแพ็กเกจจากเมนูดรอปดาวน์บันทึกเป็นประเภท

บันทึกลำดับงานบนเว็บของคุณโดยอัตโนมัติ

รองรับใน Tableau Server เวอร์ชัน 2020.4 และใหม่กว่า

หากคุณสร้างหรือแก้ไขลำดับงานบนเว็บ ทันทีที่คุณทำการเปลี่ยนแปลงลำดับงาน (เชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูล เพิ่มขั้นตอน และอื่นๆ) งานของคุณจะได้รับการบันทึกโดยอัตโนมัติทุกๆ สองสามวินาทีเป็นฉบับร่างเพื่อที่คุณจะได้ไม่สูญเสียงานของคุณ

คุณสามารถบันทึกลำดับงานไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่คุณเข้าสู่ระบบอยู่ในขณะนั้นเท่านั้น คุณไม่สามารถสร้างลำดับงานฉบับร่างบนเซิร์ฟเวอร์หนึ่งเพื่อไปลองบันทึกหรือเผยแพร่ไปยังอีกเซิร์ฟเวอร์หนึ่งได้ หากคุณต้องการเผยแพร่ลำดับงานไปยังโปรเจกต์อื่นบนเซิร์ฟเวอร์ ให้ใช้ตัวเลือกเมนูไฟล์ > เผยแพร่เป็น จากนั้นเลือกโปรเจกต์ของคุณจากกล่องโต้ตอบ

คุณจะสามารถมองเห็นลำดับงานฉบับร่างได้เพียงผู้เดียวจนกว่าคุณจะเผยแพร่และกำหนดให้ผู้ที่มีสิทธิเข้าถึงโปรเจกต์บนเซิร์ฟเวอร์ของคุณสามารถมองเห็นได้ ลำดับงานที่มีสถานะเป็นฉบับร่างจะได้รับการแท็กด้วยเครื่องหมายฉบับร่างเพื่อที่คุณจะได้ค้นหาลำดับงานที่ยังไม่เสร็จได้โดยง่าย หากลำดับงานนั้นยังไม่เคยได้รับการเผยแพร่ เครื่องหมายไม่เคยเผยแพร่ จะปรากฏอยู่ถัดจากเครื่องหมาย “ฉบับร่าง”

หลังจากลำดับงานได้รับการเผยแพร่แล้ว และคุณได้แก้ไขและเผยแพร่ลำดับงานนั้นซ้ำ จะมีการสร้างเวอร์ชันใหม่ขึ้น คุณสามารถดูรายการเวอร์ชันของลำดับงานได้ในกล่องโต้ตอบประวัติการแก้ไข จากหน้า Explore (สำรวจ) ให้คลิกเมนูการดำเนินการและเลือกประวัติการแก้ไข

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดการประวัติการแก้ไข โปรดดู ทำงานกับการแก้ไขเนื้อหา(ลิงก์จะเปิดในหน้าต่างใหม่)ในความช่วยเหลือของ Tableau Desktop

หมายเหตุ “บันทึกอัตโนมัติ” ได้รับการเปิดใช้งานโดยค่าเริ่มต้น ผู้ดูแลระบบสามารถปิดการใช้งาน “บันทึกอัตโนมัติ” บนไซต์ได้ แต่ไม่เป็นที่แนะนำ หากต้องการปิด “บันทึกอัตโนมัติ” ให้ใช้เมธอด “อัปเดตไซต์” ของ REST API ของ Tableau Server และตั้งแอตทริบิวต์ flowAutoSaveEnabled ให้เป็นเท็จ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดู ไซต์เมธอดของ REST API ของ Tableau Server: อัปเดตไซต์(ลิงก์จะเปิดในหน้าต่างใหม่)

การกู้คืนไฟล์อัตโนมัติ

รองรับใน Tableau Prep Builder เวอร์ชัน 2020.3.3 และใหม่กว่า

โดยค่าเริ่มต้น Tableau Prep Builder จะบันทึกฉบับร่างของลำดับงานใดๆ ที่เปิดอยู่โดยอัตโนมัติหากแอปพลิเคชันค้างหรือขัดข้อง ลำดับงานฉบับร่างจะบันทึกอยู่ในโฟลเดอร์ขั้นตอนที่กู้คืนในที่เก็บใน Tableau Prep ของฉันของคุณ ครั้งต่อไปที่คุณเปิดแอปพลิเคชัน กล่องโต้ตอบจะแสดงรายการขอขั้นตอนที่กู้คืนขึ้นมาให้เลือก คุณสามารถเปิดขั้นตอนที่กู้คืนและทำงานต่อจากที่ค้างไว้ หรือลบไฟล์ขั้นตอนที่กู้คืนได้หากไม่ต้องการ

หมายเหตุ หากคุณมีขั้นตอนที่กู้คืนในโฟลเดอร์ขั้นตอนที่กู้คืนของคุณ กล่องโต้ตอบนี้จะแสดงทุกครั้งที่คุณเปิดแอปพลิเคชันจนกว่าโฟลเดอร์นั้นจะว่างเปล่า

หากคุณไม่ต้องการเปิดฟีเจอร์นี้ คุณสามารถปิดได้ระหว่างการติดตั้งหรือหลังจากการติดตั้งในฐานะผู้ดูแลระบบ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการปิดฟีเจอร์นี้ โปรดดู ปิดใช้งานการกู้คืนไฟล์(ลิงก์จะเปิดในหน้าต่างใหม่) ในคู่มือการนำไปใช้งานของ Tableau Desktop และ Tableau Prep

ดูเอาต์พุตลำดับงานใน Tableau Desktop

หมายเหตุ ไม่มีตัวเลือกนี้บนเว็บ

บางครั้งเมื่อคุณล้างข้อมูลของคุณ คุณอาจต้องการตรวจสอบความคืบหน้าโดยดูใน Tableau Desktop เมื่อลำดับงานของคุณเปิดใน Tableau Desktop Tableau Prep Builder จะสร้างไฟล์ .hyper ของ Tableau และไฟล์แหล่งข้อมูลของ Tableau (.tds) แบบถาวรขึ้น ไฟล์เหล่านี้จะบันทึกอยู่ในที่เก็บของ Tableau ของคุณในไฟล์แหล่งข้อมูล คุณจึงสามารถทดสอบข้อมูลของคุณได้ทุกเมื่อ

เมื่อคุณเปิดลำดับงานใน Tableau Desktop คุณจะสามารถเห็นตัวอย่างข้อมูลที่คุณกำลังทำงานด้วยในลำดับงานของคุณโดยมีการปรับใช้การดำเนินการต่างๆ จนถึงขั้นตอนที่คุณเลือก

หมายเหตุ แม้คุณจะสามารถทดสอบข้อมูลของคุณได้ แต่ Tableau แสดงเพียงตัวอย่างของข้อมูลของคุณเท่านั้นและคุณจะไม่สามารถบันทึกเวิร์กบุ๊กเป็นเวิร์กบุ๊กแบบแพ็กเกจ (.twbx) ได้ เมื่อคุณพร้อมที่จะทำงานกับข้อมูลของคุณบน Tableau ให้สร้างขั้นตอนเอาต์พุตในลำดับงานของคุณและบันทึกเอาต์พุตนั้นไปยังไฟล์ หรือเป็นแหล่งข้อมูลที่เผยแพร่ จากนั้นเชื่อมต่อไปยังแหล่งข้อมูลเต็มขั้นใน Tableau

เพื่อดูตัวอย่างข้อมูลของคุณใน Tableau Desktop ให้ทำดังต่อไปนี้

  1. คลิกขวาที่ขั้นตอนที่คุณต้องการดูข้อมูลของคุณและเลือกแสดงตัวอย่างใน Tableau Desktop จากเมนูบริบท

  2. Tableau Desktop จะเปิดบนแท็บชีต

สร้างไฟล์การแยกข้อมูลและแหล่งข้อมูลที่เผยแพร่

สำคัญm ตั้งแต่Tableau Prep Builder เวอร์ชัน 2020.3.1 เป็นต้นไป จะไม่รองรับไฟล์ Tableau Data Extract (.tde) เป็นประเภทเอาต์พุตลำดับงานอีกต่อไป เพื่อหลีกเลี่ยงความล้มเหลวในการเรียกใช้ลำดับงาน ให้เปลี่ยนเอาต์พุตลำดับงานจากไฟล์ (.tde) เป็นไฟล์การแตกไฟล์ Hyper (*.hyper) ลำดับงานที่เผยแพร่ไปยัง Tableau Server หรือ Tableau Cloud ต้องดาวน์โหลดมายัง Tableau Prep Builder เพื่อเปลี่ยนประเภทเอาต์พุตของไฟล์

เพื่อสร้างเอาต์พุตจากลำดับงาน คุณต้องเรียกใช้ลำดับงานของคุณ เมื่อคุณเรียกใช้ลำดับงานของคุณ การเปลี่ยนแปลงของคุณจะปรับใช้กับชุดข้อมูลทั้งชุด การเรียกใช้ลำดับงานของคุณจะได้ผลลัพธ์เป็นแหล่งข้อมูล Tableau (.tds) และไฟล์การแยกข้อมูลใน Tableau (.hyper)

หมายเหตุ คุณสามารถเผยแพร่การแยกข้อมูล หรือแหล่งข้อมูลที่เผยแพร่ไปยัง Tableau Server เวอร์ชัน 10.0 เป็นต้นไป เช่นเดียวกันกับ Tableau Cloud

Tableau Prep Builder

คุณสามารถสร้างไฟล์การแยกข้อมูลจากเอาต์พุตลำดับงานของคุณเพื่อใช้ใน Tableau Desktop หรือเพื่อแบ่งปันข้อมูลของคุณกับบุคคลที่สามได้ สร้างไฟล์การแยกข้อมูลในรูปแบบดังต่อไปนี้

  • Hyper Extract (.hyper) เป็นไฟล์การแยกข้อมูลประเภทล่าสุดและสามารถใช้ได้ใน Tableau Desktop หรือ Tableau Server เวอร์ชัน 10.5 เป็นต้นไปเท่านั้น

  • Comma Separated Value (.csv) บันทึกการแยกข้อมูลไปยังไฟล์ .csv เพื่อแบ่งปันข้อมูลของคุณกับบุคคลที่สาม การเข้ารหัสของไฟล์ CSV ที่ส่งออกไปจะเป็น UTF-8 กับ BOM

  • Microsoft Excel (.xlsx) ตั้งแต่เวอร์ชัน 2021.1.2 เป็นต้นไป คุณจะสามารถส่งข้อมูลลำดับงานของคุณไปยังสเปรดชีตของ Microsoft Excel ได้ ไม่รองรับประเภทไฟล์ Legacy Microsoft Excel .xls

Tableau Prep Builder และบนเว็บ

เผยแพร่เอาต์พุตลำดับงานของคุณเป็นแหล่งข้อมูลที่เผยแพร่หรือส่งไปยังฐานข้อมูล

  • บันทึกเอาต์พุตลำดับงานของคุณเป็นแหล่งข้อมูลไปยัง Tableau Server หรือ Tableau Cloud เพื่อแบ่งปันข้อมูลของคุณและให้เกิดการเข้าถึงรวมศูนย์ของข้อมูลที่คุณล้าง กำหนดรูปแบบ หรือรวมเข้าด้วยกันแล้ว
  • บันทึกเอาต์พุตลำดับงานของคุณไปยังฐานข้อมูลเพื่อสร้าง แทนที่ หรือต่อท้ายตารางข้อมูลด้วยข้อมูลลำดับงานของคุณที่ได้รับการล้างและจัดเตรียมแล้ว หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดู บันทึกเอาต์พุตลำดับงานไปยังฐานข้อมูลภายนอก

ใช้การรีเฟรชแบบเพิ่มหน่วยเมื่อเรียกใช้ลำดับงานของคุณเพื่อประหยัดเวลาและทรัพยากรโดยรีเฟรชเฉพาะข้อมูลใหม่แทนที่จะรีเฟรชชุดข้อมูลทั้งชุด หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการกำหนดค่าและเรียกใช้ลำดับงานโดยใช้การรีเฟรชแบบเพิ่มหน่วย โปรดดู รีเฟรชข้อมูลโฟลว์โดยใช้การรีเฟรชแบบเพิ่มหน่วย

หมายเหตุ หากต้องการเผยแพร่เอาต์พุตของ Tableau Prep Builder ไปยัง Tableau Server ต้องเปิดใช้งาน REST API ของ Tableau Server หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดู ความต้องการของ Rest API (ลิงก์จะเปิดในหน้าต่างใหม่)ในความช่วยเหลือของ REST API ของ Tableau เพื่อเผยแพร่เซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ใบรับรองการเข้ารหัสของ Secure Socket Layer (SSL) จะมีขั้นตอนการกำหนดค่าเพิ่มเติมที่จำเป็นบนเครื่องที่เรียกใช้ Tableau Prep Builder หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดู ก่อนที่คุณจะติดตั้ง(ลิงก์จะเปิดในหน้าต่างใหม่)ในคู่มือการนำไปใช้งานของ Tableau Desktop และ Tableau Prep Builder

เพิ่มพารามิเตอร์ลงในเอาต์พุตลำดับงานของคุณ

รองรับใน Tableau Prep Builder และบนเว็บตั้งแต่เวอร์ชัน 2021.4 เป็นต้นไป

เพิ่มค่าพารามิเตอร์ลงในชื่อไฟล์ เส้นทาง ชื่อตาราง หรือสคริปต์ SQL แบบปรับแต่งเองของเอาต์พุตลำดับงานของคุณ (เวอร์ชัน 2022.1.1 เป็นต้นไป) เพื่อเรียกใช้ลำดับงานของคุณสำหรับชุดข้อมูลที่แตกต่างกันได้อย่างง่ายดาย หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดู สร้างและใช้พารามิเตอร์ในลำดับงาน

สร้างการแยกข้อมูลไปยังไฟล์

หมายเหตุ ตัวเลือกเอาต์พุตนี้ไม่สามารใช้ได้เมื่อสร้างหรือแก้ไขลำดับงานบนเว็บ

  1. คลิกไอคอนบวก ในขั้นตอน และเลือกเพิ่มเอาต์พุต

    หากคุณได้เรียกใช้ลำดับงานมาก่อน ให้คลิกปุ่มเรียกใช้ลำดับงาน ในขั้นตอน “เอาต์พุต” การดำเนินการนี้จะเรียกใช้ลำดับงานและอัปเดตเอาต์พุตของคุณ

    แผงเอาต์พุตจะเปิดขึ้นและแสดงสแนปช็อตของข้อมูลของคุณ

  2. ในแผงด้านซ้าย ให้เลือกไฟล์จากรายการดรอปดาวน์บันทึกเอาต์พุตไปยัง ในเวอร์ชันก่อนหน้า ให้เลือก Save to file (บันทึกไปยังไฟล์)

  3. คลิกปุ่ม Browse (เรียกดู) จากนั้นในกล่องโต้ตอบบันทึกข้อมูลที่แยกเป็น ให้ป้อนชื่อสำหรับไฟล์นั้นและคลิก Accept (ตกลง)

  4. ในฟิลด์ประเภทเอาต์พุต ให้เลือกจากประเภทเอาต์พุตดังต่อไปนี้

    • การแยกข้อมูลใน Tableau (.hyper)

    • ค่าที่คั่นด้วยจุลภาค (.csv)

  5. (Tableau Prep Builder เวอร์ชัน 2020.2.1 เป็นต้นไป) ในส่วน ตัวเลือกการเขียน ให้ดูตัวเลือกการเขียนเริ่มต้นเพื่อเขียนข้อมูลใหม่ลงในไฟล์ของคุณ และทำการเปลี่ยนแปลงใดๆ ตามต้องการ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดู กำหนดค่าตัวเลือกการเขียน

    • สร้างตาราง ตัวเลือกนี้จะสร้างตารางใหม่หรือแทนที่ตารางที่มีอยู่ด้วยเอาต์พุตใหม่

    • ต่อท้ายตาราง ตัวเลือกนี้จะเพิ่มข้อมูลใหม่ลงในตารางที่มีอยู่ของคุณ หากตารางนั้นไม่มีอยู่ ตารางใหม่จะถูกสร้างขึ้น และการเรียกใช้ในภายหลังจะเพิ่มแถวใหม่ลงในตารางนี้

      หมายเหตุ ต่อท้ายตาราง ไม่รองรับในประเภทเอาต์พุต .csv หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชุดตัวเลือกการรีเฟรชที่รองรับ โปรดดู ตัวเลือกการรีเฟรชโฟลว์

  6. คลิกเรียกใช้ลำดับงานเพื่อเรียกใช้ลำดับงานและสร้างไฟล์การแยกข้อมูล

สร้างการแยกข้อมูลไปยังเวิร์กชีตของ Microsoft Excel

รองรับใน Tableau Prep Builder เวอร์ชัน 2021.1.2 และใหม่กว่า ตัวเลือกเอาต์พุตนี้ไม่สามารใช้ได้เมื่อสร้างหรือแก้ไขลำดับงานบนเว็บ

เมื่อคุณ ส่งข้อมูลลำดับงานไปยังเวิร์กชีตของ Microsoft Excel คุณสามารถสร้างเวิร์กชีตใหม่ ต่อท้ายหรือแทนที่ข้อมูลในเวิร์กชีตที่มีอยู่ได้ โดยมีเงื่อนไขดังต่อไปนี้

  • รองรับเฉพาะรูปแบบไฟล์ .xlsx ของ Microsoft Excel เท่านั้น
  • แถวในเวิร์กชีตเริ่มจากช่อง A1
  • เมื่อต่อท้าย หรือแทนที่ข้อมูล แถวแรกจะนับเป็นส่วนหัว
  • ชื่อส่วนหัวจะมีการเพิ่มเมื่อสร้างเวิร์กชีตใหม่แต่ไม่เพิ่มเมื่อเพิ่มข้อมูลไปยังเวิร์กชีตที่มีอยู่
  • การจัดรูปแบบหรือสูตรใดๆ ในเวิร์กชีตที่มีอยู่จะไม่ได้รับการปรับใช้ไปยังเอาต์พุตลำดับงาน
  • ยังไม่รองรับการเขียนลงตารางหรือช่วงของค่าในปัจจุบัน
  • ยังไม่รองรับการรีเฟรชแบบเพิ่มหน่วยในปัจจุบัน

ส่งข้อมูลลำดับงานไปยังไฟล์เวิร์กชีตของ Microsoft Excel

  1. คลิกไอคอนบวก ในขั้นตอน และเลือกเพิ่มเอาต์พุต

    หากคุณได้เรียกใช้ลำดับงานมาก่อน ให้คลิกปุ่มเรียกใช้ลำดับงาน ในขั้นตอน “เอาต์พุต” การดำเนินการนี้จะเรียกใช้ลำดับงานและอัปเดตเอาต์พุตของคุณ

    แผงเอาต์พุตจะเปิดขึ้นและแสดงสแนปช็อตของข้อมูลของคุณ

  2. ในแผงด้านซ้าย ให้เลือกไฟล์จากรายการดรอปดาวน์บันทึกเอาต์พุตไปยัง

  3. คลิกปุ่ม Browse (เรียกดู) จากนั้นในกล่องโต้ตอบบันทึกข้อมูลที่แยกเป็น ให้ป้อนชื่อสำหรับไฟล์นั้นและคลิก Accept (ตกลง)

  4. ในฟิลด์ประเภทเอาต์พุต ให้เลือก Microsoft Excel (.xlsx)

  5. ในฟิลด์เวิร์กชีต ให้เลือกเวิร์กชีตที่คุณต้องการเขียนผลลัพธ์ หรือป้อนชื่อใหม่ในฟิลด์แทน จากนั้นคลิกสร้างตารางใหม่
  6. ในส่วนตัวเลือกการเขียน ให้เลือกหนึ่งในตัวเลือกการเขียนต่อไปนี้

    • สร้างตาราง หมายถึง สร้างเวิร์กชีตหรือสร้างเวิร์กชีตใหม่ (หากไฟล์มีอยู่แล้ว) ด้วยข้อมูลลำดับงานของคุณ

    • ต่อท้ายตาราง หมายถึง เพิ่มแถวใหม่ไปยังเวิร์กชีตที่มีอยู่ หากเวิร์กชีตไม่มีอยู่ จะมีการสร้างใหม่และการเรียกใช้ลำดับงานในภายหลังจะเพิ่มแถวไปยังเวิร์กชีตนั้น

    • แทนที่ข้อมูล หมายถึง แทนที่ข้อมูลที่หมดที่มีอยู่ด้วยข้อมูลลำดับงานยกเว้นแถวแรกในเวิร์กชีตนั้น

      การเปรียบฟิลด์แสดงถึงฟิลด์ในลำดับงานของคุณที่ตรงกับฟิลด์ในเวิร์กชีตของคุณ หากมีอยู่แล้ว หากเวิร์กชีตนั้นเป็นเวิร์กชีตใหม่ จะแสดงฟิลด์ที่ตรงกันแบบหนึ่งต่อหนึ่ง ฟิลด์ใดก็ตามที่ไม่ตรงกันจะถูกละเว้น

  7. คลิกเรียกใช้ลำดับงานเพื่อเรียกใช้ลำดับงานและสร้างไฟล์การแยกข้อมูลของ Microsoft Excel

สร้างแหล่งข้อมูลที่เผยแพร่

  1. คลิกไอคอนบวก ในขั้นตอน และเลือกเพิ่มเอาต์พุต

    หมายเหตุ Tableau Prep Builder จะรีเฟรชแหล่งข้อมูลที่เผยแพร่ก่อนๆ และคงการสร้างแบบจำลองข้อมูลใดๆ ที่อาจมีอยู่ในแหล่งข้อมูลนั้นไว้ (เช่น ฟิลด์ที่คำนวณ การจัดรูปแบบตัวเลข เป็นต้น) หากแหล่งข้อมูลนั้นไม่สามารถรีเฟรชได้ แหล่งข้อมูลรวมถึงการสร้างแบบจำลองข้อมูลดังกล่าวจะถูกแทนที่แทน

  2. แผงเอาต์พุตจะเปิดขึ้นและแสดงสแนปช็อตของข้อมูลของคุณ

  3. จากรายการดรอปดาวน์บันทึกเอาต์พุตไปยัง ให้เลือกเผยแพร่แหล่งข้อมูล (เผยแพร่เป็นแหล่งข้อมูลในเวอร์ชันก่อนหน้า) เติมฟิลด์ต่อไปนี้ให้ครบถ้วน

    • เซิร์ฟเวอร์ (เฉพาะ Tableau Prep Builder เท่านั้น) ให้เลือกเซิร์ฟเวอร์ที่คุณต้องการเผลแพร่แหล่งข้อมูลและการแยกข้อมูล หากคุณไม่ได้เข้าสู่ระบบ ระบบจะแจ้งให้คุณทำ

      หมายเหตุ ตั้งแต่ Tableau Prep Builder เวอร์ชัน 2020.1.4 เป็นต้นไป หลังจากคุณเข้าสู่ระบบเซิร์ฟเวอร์ของคุณแล้ว Tableau Prep Builder จะจดจำชื่อเซิร์ฟเวอร์และข้อมูลเข้าสู่ระบบของคุณเมื่อคุณปิดแอปพลิเคชัน ครั้งต่อไปที่คุณเปิดแอปพลิเคชัน คุณจะเข้าสู่ระบบเซิร์ฟเวอร์ของคุณเรียบร้อย

      บน Mac ระบบอาจแจ้งให้คุณให้ Access ไปยังคีย์เชน Mac ของคุณเพื่อ Tableau Prep Builder จะได้สามารถใช้ใบรับรอง SSL เพื่อเชื่อมต่อไปยังสภาพแวดล้อม Tableau Server หรือ Tableau Cloud ของคุณอย่างปลอดภัย

      หากคุณข้อมูลที่คุณกำลังส่งไปยัง Tableau Cloud มี Pod ไซต์ของคุณเป็นโฮสต์อยู่ใน "serverUrl" ตัวอย่างเช่น "https://eu-west-1a.online.tableau.com" ไม่ใช่ "https://online.tableau.com"

    • โปรเจกต์ ให้เลือกโปรเจกต์ที่คุณต้องการโหลดแหล่งข้อมูลและแยกข้อมูล

    • ชื่อ ให้ป้อนชื่อไฟล์

    • คำอธิบาย ให้ป้อนคำอธิบายสำหรับแหล่งข้อมูล

  4. (Tableau Prep Builder เวอร์ชัน 2020.2.1 เป็นต้นไป) ในส่วน ตัวเลือกการเขียน ให้ดูตัวเลือกการเขียนเริ่มต้นเพื่อเขียนข้อมูลใหม่ลงในไฟล์ของคุณ และทำการเปลี่ยนแปลงใดๆ ตามต้องการ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดู กำหนดค่าตัวเลือกการเขียน

    • สร้างตาราง ตัวเลือกนี้จะสร้างตารางใหม่หรือแทนที่ตารางที่มีอยู่ด้วยเอาต์พุตใหม่

    • ต่อท้ายตาราง ตัวเลือกนี้จะเพิ่มข้อมูลใหม่ลงในตารางที่มีอยู่ของคุณ หากตารางนั้นไม่มีอยู่ ตารางใหม่จะถูกสร้างขึ้น และการเรียกใช้ในภายหลังจะเพิ่มแถวใหม่ลงในตารางนี้

  5. คลิกเรียกใช้ลำดับงานเพื่อเรียกใช้ลำดับงานและเผยแพร่แหล่งข้อมูล

บันทึกเอาต์พุตลำดับงานไปยังฐานข้อมูลภายนอก

รองรับใน Tableau Prep Builder เวอร์ชัน 2020.3.1 เป็นต้นไป และบน Tableau Server และ Tableau Cloud ตั้งแต่เวอร์ชัน 2020.4 เป็นต้นไป

สำคัญ: ฟีเจอร์นี้ช่วยให้คุณลบและแทนที่ข้อมูลในฐานข้อมูลภายนอกอย่างถาวรได้ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้รับสิทธิให้เขียนไปยังฐานข้อมูลนั้น
เพื่อป้องกันข้อมูลสูญหาย คุณสามารถใช้ตัวเลือก Custom SQL (SQL แบบปรับแต่งเอง) เพื่อทำสำเนาตารางข้อมูลของคุณและเรียกใช้มันก่อนเขียนข้อมูลลำดับงานไปยังตารางได้

คุณสามารถเชื่อมต่อกับข้อมูลจากตัวเชื่อมต่อใดก็ได้ที่ Tableau Prep Builder หรือเว็บรองรับ และส่งข้อมูลไปยังฐานข้อมูลภายนอก นี่ช่วยให้คุณเพิ่มหรืออัปเดตข้อมูลในฐานข้อมูลของคุณด้วยข้อมูลที่ได้รับการล้างและจัดเตรียมจากลำดับงานของคุณทุกครั้งที่มีลำดับงานได้รับการเรียกใช้ ฟีเจอร์นี้มีสำหรับตัวเลือกการรีเฟรชทั้งแบบเพิ่มหน่วยและแบบเต็มรูป หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการกำหนดค่าการรีเฟรชแบบเพิ่มหน่วย โปรดดู รีเฟรชข้อมูลโฟลว์โดยใช้การรีเฟรชแบบเพิ่มหน่วย

เมื่อคุณบันทึกเอาต์พุตลำดับงานข้องคุณไปยังฐานข้อมูลภายนอก Tableau Prep จะทำดังต่อไปนี้

  1. สร้างแถวและเรียกใช้คำสั่ง SQL ใดๆ ที่ขัดต่อฐานข้อมูล
  2. เขียนข้อมูลไปยังตารางชั่วคราว (หรือที่พักข้อมูลหากส่งข้อมูลไปยัง Snowflake) ในฐานข้อมูลภายนอก
  3. หากสำเร็จ ข้อมูลจะย้ายจากตารางชั่วคราว (หรือที่พักข้อมูลสำหรับ Snowflake)ไปยังตารางเป้าหมาย
  4. เรียกใช้คำสั่ง SQL ใดก็ตามที่คุณต้องการเรียกใช้หลังเขียนข้อมูลไปยังฐานข้อมูล

หากสคริปต์ SQL ล้มเหลว ลำดับงานจะล้มเหลวด้วย แต่ทว่าข้อมูลของคุณจะยังโหลดไปยังตารางฐานข้อมูล คุณสามารถลองเรียกใช้ลำดับงานอีกครั้งหรือเรียกใช้สคริปต์ SQL ของคุณบนฐานข้อมูลด้วยตัวเองเพื่อปรับใช้

ตัวเลือกการส่งข้อมูล

คุณสามารถเลือกตัวเลือกต่อไปนี้เมื่อเขียนข้อมูลไปยังฐานข้อมูล หากไม่มีตารางอยู่ ตารางจะได้รับการสร้างขึ้นเมื่อเรียกใช้ลำดับงานเป็นครั้งแรก

  • ต่อท้ายตาราง ตัวเลือกนี้จะเพิ่มข้อมูลลงในตารางที่มีอยู่ หากไม่มีตาราง ตารางจะถูกสร้างขึ้นเมื่อมีการเรียกใช้ลำดับงานครั้งแรก และข้อมูลจะถูกเพิ่มลงในตารางนั้นเมื่อมีการเรียกใช้ลำดับงานในภายหลังแต่ละครั้ง
  • สร้างตาราง ตัวเลือกนี้จะสร้างตารางใหม่ด้วยข้อมูลจากลำดับงานของคุณ หากมีตารางอยู่ ตารางดังกล่าวและโครงสร้างข้อมูลใดๆ หรือคุณสมบัติของตารางนั้นจะถูกลบและแทนที่ด้วยตารางใหม่ที่ใช้โครงสร้างข้อมูลของลำดับงาน ฟิลด์ใดๆ ที่มีอยู่ในลำดับงานจะได้รับการเพิ่มลงในตารางฐานข้อมูลใหม่
  • แทนที่ข้อมูล ตัวเลือกนี้จะลบข้อมูลในตารางที่มีอยู่ของคุณ และแทนที่ด้วยข้อมูลในลำดับงานของคุณ แต่จะรักษาโครงสร้างและคุณสมบัติของตารางฐานข้อมูลไว้ หากไม่มีตาราง ตารางจะถูกสร้างขึ้นเมื่อมีการเรียกใช้ลำดับงานครั้งแรก และตารางข้อมูลจะถูกแทนที่ด้วยการเรียกใช้ลำดับงานในภายหลังแต่ละครั้ง

ตัวเลือกเพิ่มเติม

นอกเหนือจากตัวเลือกการเขียน คุณยังสามารถเพิ่มสคริปต์ SQL แบบปรับแต่งเอง หรือเพิ่มตารางใหม่ไปยังฐานข้อมูลของคุณได้ด้วย

  • สคริปต์ SQL แบบปรับแต่งเอง หมายถึง ป้อน SQL แบบปรับแต่งเองของคุณและเลือกว่าจะเรียกใช้สคริปต์นั้นก่อน หลัง หรือทั้งก่อนและหลังการเขียนข้อมูลไปยังตารางฐานข้อมูล คุณสามารถใช้สคริปต์เหล่านี้เพื่อสร้างสำเนาตารางฐานข้อมูลของคุณก่อนที่ข้อมูลลำดับงานจะเขียนไปยังตาราง เพิ่มสารบัญ เพิ่มคุณสมบัติอื่นๆ ของตาราง และอื่นๆ

    หมายเหตุ ตั้งแต่เวอร์ชัน 2022.1.1 เป็นต้นไป คุณสามารถแทรกพารามิเตอร์ลงในสคริปต์ SQL ของคุณได้อีกด้วย หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดู ใช้พารามิเตอร์ผู้ใช้กับขั้นตอนการส่งออกข้อมูล

  • เพิ่มตารางใหม่ หมายถึง เพิ่มตารางใหม่ด้วยชื่อเฉพาะไปยังฐานข้อมูลแทนการเลือกจากรายการตารางที่มีอยู่ หากคุณต้องการปรับใช้สคีมาที่นอกเหนือไปจากสคีมาที่เป็นค่าเริ่มต้น (Microsoft SQL Server และ PostgreSQL) คุณสามารถระบุโดยใช้ไวยากรณ์ [schema name].[table name]

ฐานข้อมูลที่รองรับและความต้องการของฐานข้อมูล

Tableau Prep รองรับการเขียนข้อมูลลำดับงานไปยังตารางในฐานข้อมูลที่คัดเลือกแล้วจำนวนหนึ่ง ลำดับงานที่เรียกใช้ตามกำหนดการใน Tableau Cloud จะสามารถเขียนไปยังฐานข้อมูลเหล่านี้ได้ก็ต่อเมื่อมีการโฮสต์ด้วยระบบคลาวด์เท่านั้น

ฐานข้อมูลบางฐานมีการจำกัดข้อมูลหรือความต้องการ Tableau Prep ยังอาจมีการกำหนดข้อจำกัดบางอย่างเพื่อรักษาการทำงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุดขณะเขียนข้อมูลไปยังฐานข้อมูลที่รองรับอีกด้วย ตารางต่อไปนี้แสดงฐานข้อมูลที่คุณสามารถบันทึกลำดับงานของคุณและการจำกัดข้อมูลหรือความต้องการใดๆ ที่มี ข้อมูลที่ไม่เป็นไปตามความต้องการเหล่านี้อาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดเมื่อเรียดใช้งานได้

หมายเหตุ ยังไม่มีการรองรับการกำหนดขีดจำกัดอักขระสำหรับฟิลด์ของคุณในปัจจุบัน แต่ทว่า คุณสามารถสร้างตารางในฐานข้อมูลของคุณที่มีขีดจำกัดจำนวนอักขระ จากนั้นใช้ตัวเลือกแทนที่ข้อมูลเพื่อแทนที่ข้อมูลของคุณโดยคงโครงสร้างของตารางในฐานข้อมูลของคุณไว้ได้

ฐานข้อมูลความต้องการหรือข้อจำกัด
Amazon Redshift
  • ไม่รองรับลำดับการตรวจเทียบ โปรดดู เอกสาร Amazon Redshift(ลิงก์จะเปิดในหน้าต่างใหม่) หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม
  • ชื่อฟิลด์ทั้งหมดจะถูกเปลี่ยนเป็นอักษรพิมพ์เล็ก
  • สามารถเขียนอักขระได้สูงสุด 8192 ตัวสำหรับค่าของฟิลด์ข้อความ ค่าที่ยาวกว่านี้จะถูกตัดให้สั้นลง
Google BigQuery
  • Tableau สามารถเขียนเป็นเอาต์พุตไปยังตารางได้มากที่สุดถึง 2GB

Microsoft SQL Server
  • สามารถเขียนอักขระได้สูงสุด 3072 ตัวสำหรับค่าของฟิลด์ข้อความ ค่าที่ยาวกว่านี้จะถูกตัดให้สั้นลง
  • (เวอร์ชัน: 2022.3.1) เอาต์พุตโฟลว์ที่เผยแพร่ไปยัง Tableau Server จะได้รับอนุญาตให้เข้าถึงโดยมีสิทธิ์เขียนไปยังฐานข้อมูล Microsoft SQL Server โดยใช้ข้อมูลเข้าสู่ระบบ “Run As” โปรดดูหัวข้อ maestro.output.write_to_mssql_using_runas ในตัวเลือกในการกำหนดค่า tsm
MySQL
  • สามารถเขียนอักขระได้สูงสุด 8192 ตัวสำหรับค่าของฟิลด์ข้อความ ค่าที่ยาวกว่านี้จะถูกตัดให้สั้นลง
Oracle
  • ชื่อฟิลด์และตารางไม่สามารถยาวเกิน 30 อักขระ
  • สามารถเขียนอักขระได้สูงสุด 1000 ตัวสำหรับค่าของฟิลด์ข้อความ ค่าที่ยาวกว่านี้จะถูกตัดให้สั้นลง
  • อักขระพิเศษในชื่อฟิลด์อาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดได้
Pivotal Greenplum Database
  • สามารถเขียนอักขระได้สูงสุด 8192 ตัวสำหรับค่าของฟิลด์ข้อความ ค่าที่ยาวกว่านี้จะถูกตัดให้สั้นลง
PostgreSQL
  • สามารถเขียนอักขระได้สูงสุด 8192 ตัวสำหรับค่าของฟิลด์ข้อความ ค่าที่ยาวกว่านี้จะถูกตัดให้สั้นลง
SAP HANA
  • สามารถเขียนอักขระได้สูงสุด 8192 ตัวสำหรับค่าของฟิลด์ข้อความ ค่าที่ยาวกว่านี้จะถูกตัดให้สั้นลง
Snowflake
Teradata
  • สามารถเขียนอักขระได้สูงสุด 1000 ตัวสำหรับค่าของฟิลด์ข้อความ ค่าที่ยาวกว่านี้จะถูกตัดให้สั้นลง
Vertica
  • สามารถเขียนอักขระได้สูงสุด 8192 ตัวสำหรับค่าของฟิลด์ข้อความ ค่าที่ยาวกว่านี้จะถูกตัดให้สั้นลง

บันทึกข้อมูลลำดับงานไปยังฐานข้อมูล

หมายเหตุ ยังไม่รองรับการเขียนเอาต์พุตลำดับงานไปยังฐานข้อมูลโดยใช้การตรวจสอบสิทธิของ Windows หากคุณใช้การตรวจสอบสิทธิวิธีนี้ คุณจะต้องเปลี่ยนการตรวจสอบสิทธิการเชื่อมต่อไปใช้ชื่อผู้ใช้งานและรหัสผ่าน

คุณสามารถฝังข้อมูลเข้าสู่ระบบสำหรับฐานข้อมูลเมื่อเผยแพร่ลำดับงาน หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการฝังข้อมูลเข้าสู่ระบบ โปรดดูส่วนฐานข้อมูลในเผยแพร่โฟลว์จาก Tableau Prep Builder

  1. คลิกไอคอนบวก ในขั้นตอน และเลือกเพิ่มเอาต์พุต
  2. จากรายการดรอปดาวน์บันทึกเอาต์พุตไปยัง ให้เลือกตารางฐานข้อมูล
  3. ในแท็บ Settings (การตั้งค่า) ให้ป้อนข้อมูลต่อไปนี้
    • ในรายการดรอปดาวน์การเชื่อมต่อ ให้เลือกตัวเชื่อมต่อฐานข้อมูลที่คุณต้องการเขียนเอาต์พุตลำดับงานของคุณ โดยจะแสดงเฉพาะตัวเชื่อมต่อที่รองรับเท่านั้น ตัวเชื่อมต่อนี้อาจเป็นตัวเดียวกันกับที่คุณใช้สำหรับอินพุตลำดับงานหรือเป็นคนละตัวกันก็ได้ หากคุณเลือกตัวเชื่อมต่อคนละตัว ระบบจะแจ้งให้คุณเข้าสู่ระบบ

      สำคัญ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีสิทธิการเขียนไปยังฐานข้อมูลที่คุณเลือก ไม่เช่นนั้นลำดับงานอาจประมวลผลข้อมูลได้เพียงบางส่วน

    • ในรายการดรอปดาวน์ฐานข้อมูล ให้เลือกฐานข้อมูลที่คุณต้องการบันทึกข้อมูลเอาต์พุตลำดับงานของคุณ
    • ในรายการดรอปดาวน์ตาราง ให้เลือกตารางที่คุณต้องการบันทึกข้อมูลเอาต์พุตลำดับงานของคุณ ขึ้นอยู่กับตัวเลือกการเขียนที่คุณเลือก จะมีการสร้างตารางใหม่ขึ้น ข้อมูลลำดับงานจะแทนที่ข้อมูลใดก็ตามที่มีอยู่ในตาราง หรือเพิ่มไปยังตารางที่มีอยู่

      เพื่อสร้างตารางใหม่ในฐานข้อมูล ให้ป้อนชื่อเฉพาะของตารางลงในฟิลด์แทน จากนั้นคลิกสร้างตารางใหม่ เมื่อคุณเรียกใช้ลำดับงานครั้งแรก ไม่ว่าคุณจะเลือกตัวเลือกการเขียนแบบใด จะมีการสร้างตารางขึ้นในฐานข้อมูลโดยใช้สคีมาเดียวกันกับลำดับงานนั้น

  4. แผงเอาต์พุตแสดงสแนปช็อตของข้อมูลของคุณ การเปรียบฟิลด์แสดงถึงฟิลด์ในลำดับงานของคุณที่ตรงกับฟิลด์ในตารางของคุณ หากตารางนั้นมีอยู่แล้ว หากเป็นตารางใหม่ ฟิลด์ที่ตรงกันแบบหนึ่งต่อหนึ่งจะแสดงขึ้น

    หากมีฟิลด์ที่ไม่ตรงกัน บันทึกสถานะจะแสดงข้อผิดพลาดใดๆ ที่เกิดขึ้น

    • ไม่ตรงกัน: ฟิลด์ถูกละเว้น หมายถึง ฟิลด์มีอยู่ในลำดับงานแต่ไม่มีในฐานข้อมูล ฟิลด์นั้นจะไม่ได้รับการเพิ่มไปยังตารางฐานข้อมูล เว้นแต่คุณจะเลือกตัวเลือกการเขียนสร้างตารางและทำการรีเฟรชแบบเต็มรูป ฟิลด์นั้นถึงจะเพิ่มไปยังตารางฐานข้อมูลและใช้สคีมาเอาต์พุตลำดับงาน
    • ไม่ตรงกัน: ฟิลด์จะมีค่า NULL หมายถึง ฟิลด์มีอยู่ในฐานข้อมูลแต่ไม่มีในลำดับงาน ลำดับงานจึงส่งค่า NULL ไปยังตารางฐานข้อมูลสำหรับฟิลด์นั้น หากฟิลด์นั้นมีอยู่ในลำดับงาน แต่ไม่ตรงกันเพราะชื่อฟิลด์ไม่เหมือนกัน คุณสามารถไปยังขั้นตอนการทำความสะอาดและแก้ไขชื่อฟิลด์ให้ตรงกับชื่อฟิลด์ในฐานข้อมูลได้ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการแก้ไขชื่อฟิลด์ โปรดดู ปรับใช้การล้าง
    • ข้อผิดพลาด: ประเภทข้อมูลฟิลด์ไม่ตรงกัน หมายถึง ประเภทข้อมูลที่กำหนดให้ฟิลด์ทั้งในลำดับงานและตารางฐานข้อมูลที่คุณกำลังเขียนเอาต์พุตไปต้องตรงกัน ไม่เช่นนั้นลำดับงานจะล้มเหลว คุณสามารถไปยังขั้นตอนการทำความสะอาดและแก้ไขประเภทข้อมูลของฟิลด์เพื่อแก้ไข หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปลี่ยนประเภทข้อมูล โปรดดู ตรวจสอบประเภทข้อมูลที่มอบหมายไปยังข้อมูลของคุณ
  5. เลือกตัวเลือกการเขียน คุณสามารถเลือกตัวเลือกให้การรีเฟรชแบบเต็มรูปและแบบเพิ่มหน่วยแตกต่างกันได้ และตัวเลือกนั้นจะได้รับการปรับใช้เมื่อคุณเลือกวิธีการเรียกใช้ลำดับงาน หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเรียกใช้งานลำดับงานของคุฯโดยใช้การรีเฟรชแบบเพิ่มหน่วย โปรดดู รีเฟรชข้อมูลโฟลว์โดยใช้การรีเฟรชแบบเพิ่มหน่วย
    • ต่อท้ายตาราง ตัวเลือกนี้จะเพิ่มข้อมูลลงในตารางที่มีอยู่ หากไม่มีตาราง ตารางจะถูกสร้างขึ้นเมื่อมีการเรียกใช้ลำดับงานครั้งแรก และข้อมูลจะถูกเพิ่มลงในตารางนั้นเมื่อมีการเรียกใช้ลำดับงานในภายหลังแต่ละครั้ง
    • สร้างตาราง ตัวเลือกนี้จะสร้างตารางใหม่ หากมีตารางที่ชื่อเหมือนกันอยู่แล้ว ตารางที่มีอยู่จะถูกลบและแทนที่ด้วยตารางใหม่ โครงสร้างข้อมูลหรือคุณสมบัติของตารางที่กำหนดไว้ใดๆ จะถูกลบและแทนที่ด้วยโครงสร้างของข้อมูลลำดับงานด้วยเช่นกัน ฟิลด์ใดๆ ที่มีอยู่ในลำดับงานจะได้รับการเพิ่มลงในตารางฐานข้อมูลใหม่
    • แทนที่ข้อมูล ตัวเลือกนี้จะลบข้อมูลในตารางที่มีอยู่ของคุณ และแทนที่ด้วยข้อมูลในลำดับงานของคุณ แต่จะรักษาโครงสร้างและคุณสมบัติของตารางฐานข้อมูลไว้
  6. (ไม่บังคับ) คลิกแท็บSQL แบบปรับแต่งเอง และป้อนสคริปต์ SQL ของคุณ คุณสามารถป้อนสคริปต์เพื่อเรียกใช้งานก่อนและ หลังจากการเขียนข้อมูลไปยังตาราง

  7. คลิกเรียกใช้ลำดับงานเพื่อเรียกใช้ลำดับงานและเขียนข้อมูลไปยังตารางไปยังฐานข้อมูลที่คุณเลือก

บันทึกข้อมูลเอาต์พุตลำดับงานไปยังชุดข้อมูลใน CRM Analytics

รองรับใน Tableau Prep Builder และบนเว็บตั้งแต่เวอร์ชัน 2022.3 เป็นต้นไป

หมายเหตุ: CRM Analytics มีข้อกำหนดและข้อจำกัดหลายประการเมื่อทำการรวมข้อมูลจากแหล่งภายนอก เพื่อให้แน่ใจว่าคุณสามารถเขียนเอาต์พุตลำดับงานของคุณไปยัง CRM Analytics ได้สำเร็จ โปรดดูข้อควรพิจารณาก่อนรวมข้อมูลเข้ากับชุดข้อมูล(ลิงก์จะเปิดในหน้าต่างใหม่) ในความช่วยเหลือของ Salesforce

ล้างข้อมูลของคุณโดยใช้ Tableau Prep และรับผลการคาดการณ์ที่ดีขึ้นใน CRM Analytics เพียงเชื่อมต่อกับข้อมูลจากตัวเชื่อมต่อใดๆ ที่ Tableau Prep Builder หรือ Tableau Prep บนเว็บรองรับ จากนั้น ใช้การแปลงเพื่อล้างข้อมูลและส่งออกข้อมูลลำดับงานของคุณโดยตรงไปยังชุดข้อมูลใน CRM Analytics ที่คุณสามารถเข้าถึงได้

โดยจะไม่สามารถเรียกใช้ลำดับงานที่ส่งออกข้อมูลไปยัง CRM Analytics โดยใช้อินเทอร์เฟซบรรทัดคำสั่งได้ คุณสามารถเรียกใช้ลำดับงานด้วยตนเองโดยใช้ Tableau Prep Builder หรือใช้การกำหนดเวลาบนเว็บด้วย Tableau Prep Conductor ได้

ข้อกำหนดเบื้องต้น

หากต้องการส่งออกข้อมูลลำดับงานไปยัง CRM Analytics ให้ตรวจสอบว่าคุณมีใบอนุญาต สิทธิ์การเข้าถึง และสิทธิ์ต่อไปนี้ใน Salesforce และ Tableau

ข้อกำหนดของ Salesforce

ข้อกำหนดคำอธิบาย

ใบอนุญาต Salesforce

CRM Analytics Plus

ใบอนุญาตนี้พร้อมให้บริการโดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ เรียนรู้เกี่ยวกับใบอนุญาตและชุดสิทธิ์ของ CRM Analytics(ลิงก์จะเปิดในหน้าต่างใหม่) ในความช่วยเหลือของ Salesforce

สิทธิ์ของ Salesforce

คุณต้องได้รับมอบหมายให้มีชุดสิทธิ์อย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ใน CRM Analytics Plus:

  • ผู้ดูแลระบบ CRM Analytics Plus : เปิดใช้งานสิทธิ์ทั้งหมดที่จำเป็นในการดูแลแพลตฟอร์ม CRM Analytics และ Einstein Discovery รวมถึงสิทธิ์ในการสร้างและจัดการแอปและแอปที่เป็นแม่แบบของ CRM Analytics ได้

  • ผู้ใช้ CRM Analytics Plus : เปิดใช้งานสิทธิ์ทั้งหมดที่จำเป็นในการใช้แพลตฟอร์ม CRM Analytics, Einstein Discovery รวมทั้งแอปและแอปที่เป็นแม่แบบของ CRM Analytics ได้

หากต้องข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ เลือกและกำหนดชุดสิทธิ์ของผู้ใช้(ลิงก์จะเปิดในหน้าต่างใหม่) ในความช่วยเหลือของ Salesforce

การตั้งค่าผู้ดูแลระบบ

ผู้ดูแลระบบ Salesforce จะต้องกำหนดค่า:

ข้อกำหนดของ Tableau Prep

ข้อกำหนดคำอธิบาย

ใบอนุญาตและสิทธิ์ของ Tableau Prep

ใบอนุญาต Creator

ในฐานะ Creator คุณต้องเข้าสู่ระบบบัญชีองค์กร Salesforce และตรวจสอบสิทธิ์ก่อนจึงจะสามารถเลือกแอปและชุดข้อมูลเพื่อส่งออกข้อมูลลำดับงานของคุณได้

การเชื่อมต่อข้อมูล OAuth

ในฐานะผู้ดูแลระบบเซิร์ฟเวอร์ ให้กำหนดค่า Tableau Server ด้วย ID ไคลเอ็นต์ OAuth และข้อมูลลับในตัวเชื่อมต่อ นี่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเรียกใช้ลำดับงานบน Tableau Server

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูกำหนดค่าTableau Serverสำหรับ Oauth ของ Salesforce.com(ลิงก์จะเปิดในหน้าต่างใหม่) ในส่วนความช่วยเหลือของ Tableau Server

บันทึกข้อมูลลำดับงานไปยัง CRM Analytics

  1. คลิกไอคอนบวก ในขั้นตอน และเลือกเพิ่มเอาต์พุต
  2. จากรายการดรอปดาวน์บันทึกเอาต์พุตไปยัง ให้เลือก CRM Analytics

  3. ในส่วนชุดข้อมูล ให้เชื่อมต่อกับ Salesforce

    เข้าสู่ระบบ Salesforce แล้วคลิกอนุญาต เพื่อให้ Tableau เข้าถึงแอป CRM Analytics และชุดข้อมูล หรือเลือกการเชื่อมต่อกับ Salesforce ที่มีอยู่

  4. ในฟิลด์ชื่อ ให้เลือกชื่อชุดข้อมูลที่มีอยู่ การดำเนินการนี้จะเขียนทับและแทนที่ชุดข้อมูลด้วยเอาต์พุตลำดับงานของคุณ หากไม่ต้องการเช่นนั้น ให้พิมพ์ชื่อใหม่และคลิกสร้างชุดข้อมูลใหม่ เพื่อสร้างชุดข้อมูลใหม่ในแอป CRM Analytics ที่เลือก

    หมายเหตุ : ชื่อชุดข้อมูลต้องมีความยาวไม่เกิน 80 อักขระ

  5. ด้านล่างช่องชื่อ ให้ตรวจสอบว่าแอปที่แสดงเป็นแอปที่คุณมีสิทธิ์เขียนลงไป

    หากต้องการเปลี่ยนแอป ให้คลิกเรียกดูชุดข้อมูล จากนั้นเลือกแอปจากรายการ ป้อนชื่อชุดข้อมูลในช่องชื่อ แล้วคลิก ยอมรับ

  6. ในส่วนตัวเลือกการเขียน การรีเฟรชแบบเต็ม และสร้างตาราง คือตัวเลือกกลุ่มเดียวที่มีการรองรับ
  7. คลิกเรียกใช้ลำดับงานเพื่อเรียกใช้ลำดับงานและเขียนข้อมูลไปยังชุดข้อมูล CRM Analytics

    หากการเรียกใช้ลำดับงานของคุณให้สำเร็จ คุณสามารถตรวจสอบผลลัพธ์เอาต์พุตได้ใน CRM Analytics ในแท็บ “ตรวจสอบ” ของตัวจัดการข้อมูล สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟีเจอร์นี้ โปรดดูตรวจการโหลดข้อมูลภายนอก(ลิงก์จะเปิดในหน้าต่างใหม่) ในความช่วยเหลือของ Salesforce

ขอบคุณสำหรับข้อเสนอแนะของคุณ!