การเปลี่ยนโทโพโลยีแบบไดนามิกของ Tableau Server
Tableau Server มีความสามารถในการเปลี่ยนแปลงหรืออัปเดตโทโพโลยีโดยไม่ต้องรีสตาร์ทเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งมาพร้อมกับการเริ่มใช้ TSM เราเรียกขั้นตอนนี้ว่าการเปลี่ยนโทโพโลยีแบบไดนามิก และสามารถใช้งานกับกระบวนการของแบ็กกราวเดอร์และ VizQL Server
คุณสามารถเพิ่มหรือลบจำนวนอินสแตนซ์ของแบ็กกราวเดอร์หรือ VizQL Server บนโหนดโดยไม่ต้องรีสตาร์ท Tableau Server หากโหนดมีอินสแตนซ์ของกระบวนการทำงานอยู่อย่างน้อยหนึ่งตัว คุณจะต้องเปลี่ยนเฉพาะจำนวนอินสแตนซ์ของแบ็กกราวเดอร์หรือ VizQL Server เท่านั้น หากคุณเพิ่มหรือลบกระบวนการอื่นด้วย หรือหากคุณกำลังจะเพิ่มอินสแตนซ์แรกของแบ็กกราวเดอร์หรือ VizQL Server ไปยังโหนด หรือลบอินสแตนซ์สุดท้ายของแบ็กกราวเดอร์หรือ VizQL Server ออกจากโหนด คุณจะต้องรีสตาร์ท Tableau Server
การเปลี่ยนการกำหนดค่าแบบไดนามิก
Tableau Server ตั้งแต่เวอร์ชัน 2020.2.0 เป็นต้นไปสามารถทำการเปลี่ยนการกำหนดค่าบางอย่างได้แบบไดนามิกโดยใช้คีย์การกำหนดค่า คุณสามารถเปลี่ยนโทโพโลยีแบบไดนามิกได้พร้อมกันกับการเปลี่ยนการกำหนดค่าแบบไดนามิก โดยไม่ต้องรีสตาร์ท Tableau Server หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปลี่ยนการกำหนดค่าแบบไดนามิก โปรดดูบันทึกประจำรุ่นของ Tableau Serverใน “มีอะไรใหม่และเปลี่ยนแปลงใน Tableau Server เวอร์ชัน 2020.2”
สถานการณ์ตัวอย่าง
โปรดพิจารณาตัวอย่างต่อไปนี้เพื่อทำความเข้าใจว่ากระบวนการนี้อาจมีประโยชน์อย่างไร
- แบ็กกราวเดอร์—เมื่อสิ้นสุดไตรมาสการขาย ทีมขายของคุณจะใช้ Tableau Server เพื่อติดตามยอดขาย แดชบอร์ดที่ใช้การแยกข้อมูลจะแสดงให้พนักงานขายเห็นว่าผลงานของพวกเขาเป็นอย่างไร หากเกิดความล่าช้าในการรีเฟรชการแยกข้อมูล หมายถึงทีมของคุณจะไม่เห็นยอดขายที่เป็นข้อมูลปัจจุบัน คุณสามารถเพิ่มแบ็กกราวเดอร์เพิ่มเติมให้กับโหนดใดๆ ที่มีแบ็กกราวเดอร์หรือ VizQL Server อย่างน้อยหนึ่งตัวอยู่แล้วได้ และเพิ่มปริมาณงานของการรีเฟรชการแยกข้อมูล ซึ่งช่วยรับประกันว่าตัวเลขยอดขายจะเป็นข้อมูลล่าสุดเมื่อทีมของคุณปิดรอบไตรมาส ภายหลัง หลังจากการพุชรายไตรมาส คุณสามารถลดอินสแตนซ์ของแบ็กกราวเดอร์ได้อีกครั้งเพื่อเปลี่ยน Tableau Server กลับเป็นการกำหนดค่าเดิม
- VizQL Server—ในทำนองเดียวกัน หาก Tableau Server ไม่สามารถติดตามการรีเฟรชมุมมอง คุณสามารถเพิ่มอินสแตนซ์ VizQL Server เพิ่มเติมไปยังโหนดที่มีการกำหนดค่า VizQL Server หรือแบ็กกราวเดอร์อย่างน้อยหนึ่งอินสแตนซ์ได้ ในตัวอย่างของแบ็กกราวเดอร์ข้างต้น คุณอาจต้องการลบ VizQL Servers ออกชั่วคราวเพื่อรองรับแบ็กกราวเดอร์เพิ่มเติม แล้วเพิ่มกลับเข้าไปอีกครั้ง ก่อนที่ผู้ใช้ของคุณจะเข้ามาดูในตอนเช้า
การเปลี่ยนโทโพโลยีแบบไดนามิก
คุณสามารถเปลี่ยนโทโพโลยีแบบไดนามิกได้โดยใช้ TSM Web UI หรือบนบรรทัดคำสั่ง หากต้องการใช้ Web UI ให้ลงชื่อเข้าใช้ TSM โดยใช้เบราว์เซอร์ และบนแท็บการกำหนดค่า ให้อัปเดตจำนวนแบ็กกราวเดอร์หรืออินสแตนซ์ VizQL Server สำหรับโหนดที่คุณจะอัปเดต หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดดูกำหนดค่าโหนด หากต้องการเปลี่ยนโดยใช้ TSM CLI ที่พร้อมท์คำสั่ง ให้เรียกใช้คำสั่ง tsm topology set-process หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูการเปลี่ยนแปลงจำนวนกระบวนการบนโหนด
ผลกระทบของการเปลี่ยนโทโพโลยีแบบไดนามิก
เมื่อทำการเปลี่ยนโทโพโลยีแบบไดนามิกที่ต้องลบอินสแตนซ์ที่มีของ VizQL Server หรือแบ็กกราวเดอร์ ระบบจะลบอินสแตนซ์ออกทันที โปรดระวังผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อผู้ใช้และงานที่กำลังทำงานอยู่ ดังนี้
แบ็กกราวเดอร์—งานที่กำลังทำงานอยู่จะปิดตัวลง ตามปกติตรรกะลองอีกครั้งของ Tableau Server จะเริ่มงานเหล่านี้อีกครั้ง โดยใช้อินสแตนซ์อื่นของแบ็กกราวเดอร์
VizQL Server—เซสชันที่กำลังทำงานจะปิดตัวลง ผู้ใช้อาจเห็นข้อความแจ้งข้อผิดพลาด การรีเฟรชเว็บเบราว์เซอร์อาจล้างข้อผิดพลาดได้
แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด
Tableau ขอแนะนำให้คุณทดสอบการเปลี่ยนโทโพโลยีแบบไดนามิกที่คุณวางแผนจะใช้ก่อนนำไปใช้กับสภาพแวดล้อมการใช้งานจริง การทดสอบก่อนจะช่วยให้คุณเข้าใจผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อผู้ใช้ รวมถึงการรีเฟรชตามกำหนดการและการสมัครรับข้อมูล อีกทั้งยังช่วยให้คุณใช้ประโยชน์จากความยืดหยุ่นของโทโพโลยีแบบไดนามิกได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
การเปลี่ยนโทโพโลยีแบบไดนามิกอัตโนมัติ
คุณสามารถเปลี่ยนโทโพโลยีแบบไดนามิกอัตโนมัติได้ ตัวอย่างเช่น หากคุณมีกำหนดการรีเฟรชการแยกข้อมูลส่วนใหญ่ในช่วงกลางคืน และรู้ว่าเซิร์ฟเวอร์ของคุณมีความจุเพิ่มขึ้นเนื่องจากผู้ใช้ออกจากระบบ คุณสามารถใช้สคริปต์หรือเครื่องมือการปรับใช้อัตโนมัติอื่นๆ เพื่อเพิ่มอินสแตนซ์ของแบ็กกราวเดอร์เมื่อสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด แล้วจึงลบออกก่อนเริ่มการทำงานในระหว่างวัน
หากต้องการรับสถานะของกระบวนการโดยอัตโนมัติ ให้ใช้คำสั่ง tsm status -v และแยกวิเคราะห์ผลลัพธ์ในสคริปต์ของคุณ หรือคุณสามารถใช้ TSM REST API เพื่อรับสถานะของเซิร์ฟเวอร์ก็ได้ API ยังอยู่ในขั้นอัลฟา หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดดูรับสถานะของเซิร์ฟเวอร์(ลิงก์จะเปิดในหน้าต่างใหม่)
สคริปต์ตัวอย่างเพื่อตั้งอินสแตนซ์สี่ตัวของแบ็กกราวเดอร์บนโหนด2 อาจเป็นดังนี้:
echo Adding/Removing Processes tsm topology set-process -pr backgrounder -n node2 -c 4 tsm pending-changes apply echo Done!