ปรับใช้ Tableau Server เดียวด้วยตนเองบน AWS

นี่คือเนื้อหาที่เก็บถาวร

ยังคงรองรับการปรับใช้บนคลาวด์สาธารณะแต่เนื้อหาสำหรับการปรับใช้บนคลาวด์สาธารณะของบุคคลที่สามจะไม่อัปเดตอีกต่อไป

หากต้องการเนื้อหาการปรับใช้ Tableau Server ล่าสุด โปรดดูส่วนคู่มือการปรับใช้ระดับองค์กร(ลิงก์จะเปิดในหน้าต่างใหม่)และปรับใช้(ลิงก์จะเปิดในหน้าต่างใหม่)ของความช่วยเหลือของ Tableau Server

สำหรับลูกค้าที่มีสิทธิ์เข้าถึง เราขอแนะนำ Tableau Cloud หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดู:

บทนำ

เพื่อให้ปรับเปลี่ยนการรักษาความปลอดภัย การปรับขนาด และความจุได้อย่างยืดหยุ่นสูงสุด คุณสามารถดำเนินการปรับใช้ Tableau Server เดียวด้วยตนเองบน AWS ได้ การสร้างโซลูชันที่ใช้ระบบคลาวด์เป็นหลักมีประโยชน์สูงกว่าการติดตั้งในองค์กร ตัวอย่างเช่น โดยปกติแล้วต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของของการสร้างโซลูชัน Tableau Server มักต่ำกว่าโซลูชันแบบติดตั้งในองค์กรที่คล้ายกันเป็นอย่างมาก เนื่องจากคุณไม่ต้องซื้อฮาร์ดแวร์ราคาแพงเหล่านั้นทั้งหมด นอกจากนี้ ระบบคลาวด์ยังสามารถมอบเวลาการทำงาน ความน่าเชื่อถือ และความทนต่อความเสียหายที่ดียิ่งขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณปรับใช้โซลูชันในหลากหลายภูมิภาคและโซนความพร้อมใช้งาน

เมื่อคุณปรับใช้ Tableau Server ในคลัสเตอร์ใน AWS แนะนำให้คุณใช้โวลุ่ม Amazon Elastic Block Store (EBS) กับ Amazon EC2 โดย EBS จะมอบโวลุ่มจัดเก็บข้อมูลระดับบล็อกแบบถาวรสำหรับใช้กับอินสแตนซ์ Amazon EC2 คุณควรแนบโวลุ่ม EBS General Purpose (SSD) แบบแยกต่างหากที่มีขนาดโวลุ่มอย่างน้อย 100 GiB เพื่อให้มีพื้นที่ว่างมากพอสำหรับติดตั้ง Tableau Server ได้ ขนาดโวลุ่มนี้จะรองรับการทำงานระดับพื้นฐานที่การดำเนินงาน 300 อินพุต/เอาต์พุตต่อวินาที (IOPS) พร้อมความสามารถในการเร่งให้สูงถึง 3,000 IOPS หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดู General Purpose SSD (gp2) Volumes (โวลุ่ม General Purpose SSD (gp2))(ลิงก์จะเปิดในหน้าต่างใหม่) ใน Amazon EC2 User Guide for Windows Instances ที่เว็บไซต์ AWS

สำหรับปริมาณงานที่หนักที่ซึ่งระบบย่อยของพื้นที่เก็บข้อมูลจะต้องให้จำนวน IOPS ขั้นต่ำอย่างสิ้นเชิงเพื่อประสิทธิภาพ คุณสามารถสร้างโวลุ่ม EBS สำหรับจุดประสงค์ทั่วไป (SSD) เพื่อให้ไปถึง 10,000 IOPS ที่มีอัตราส่วน 3 IOPS ต่อหนึ่ง GiB หรือใช้โวลุ่ม IOPS ที่จัดสรรสำหรับ EBS (SSD) พร้อมกับ IOPS ที่คุณต้องการ ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม เราขอแนะนำให้คุณใช้อินสแตนซ์ที่เพิ่มประสิทธิภาพสำหรับ EBS หากคุณวางแผนที่จะดำเนินการแยกข้อมูลอย่างหนักและดำเนินการประมวลผลข้อมูลจำนวนมาก หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประสิทธิภาพการทำงานของ Tableau Server โปรดดู ภาพรวมด้านประสิทธิภาพของ Tableau Server

ปฏิบัติตามขั้นตอนต่างๆ ต่อไปนี้เพื่อติดตั้งและกำหนดค่า Tableau Server ในระบบคลาวด์ของ AWS

ขั้นตอนที่ 1: สร้างระบบคลาวด์ส่วนตัวแบบเสมือน (VPC)

ขั้นตอนแรกคือให้สร้าง Virtual Private Cloud (VPC) และเพิ่ม อินเทอร์เฟซเครือข่ายแบบยืดหยุ่นของ Amazon(ลิงก์จะเปิดในหน้าต่างใหม่) เพื่อให้อินสแตนซ์ Amazon EC2 ของคุณมีที่อยู่ MAC คงที่

  1. เข้าสู่ระบบ AWS จากนั้นไปที่ Amazon VPC console (คอนโซล Amazon VPC)(ลิงก์จะเปิดในหน้าต่างใหม่) (https://console.aws.amazon.com/vpc/)

  2. ใช้ตัวเลือกภูมิภาคเพื่อเลือกตำแหน่งที่จัดเก็บทรัพยากร AWS อื่นๆ ของคุณ ส่วนมากแล้วจะเป็นภูมิภาคที่อยู่ใกล้คุณที่สุด

  3. ใต้ Resources (ทรัพยากร) ให้คลิก Start VPC Wizard (เริ่มตัวช่วย VPC) บนหน้าจอ Step 1: Select a VPC Configuration (ขั้นตอนที่ 1: เลือกการกำหนดค่า VPC) แล้วคลิก VPC with a Single Public Subnet (VPC พร้อมซับเน็ตสาธารณะหนึ่งรายการ) จากนั้นคลิก Select (เลือก)

  4. บนหน้าจอ Step 2: VPC with a Single Public Subnet (ขั้นตอนที่ 2: VPC พร้อมซับเน็ตสาธารณะหนึ่งรายการ) ให้ตั้งชื่อ VPC ของคุณ แล้วคลิก Create VPC (สร้าง VPC) คุณสามารถปล่อยการตั้งค่าอื่นๆ ให้เป็นค่าเริ่มต้นได้

ขั้นตอนที่ 2: กำหนดค่าการวางเครือข่ายและการรักษาความปลอดภัย

เพื่อให้ปริมาณการใช้งานขาเข้าส่งถึง VPC ของคุณได้ คุณควรจำกัดปริมาณการใช้งานให้เหลือเพียงแค่สามพอร์ตมาตรฐาน (HTTP, HTTPS และ RDP) หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูหัวข้อ Recommended Network ACL Rules (กฎ ACL เครือข่ายที่แนะนำ) สำหรับ VPC ของคุณใน Amazon Virtual Private Cloud User Guid ในเว็บไซต์ AWS

  1. ไปยัง Amazon EC2 console (คอนโซล Amazon VPC)(ลิงก์จะเปิดในหน้าต่างใหม่) (https://console.aws.amazon.com/ec2/)

  2. ใช้ตัวเลือกภูมิภาคเพื่อเลือกตำแหน่งที่คุณสร้างVPC

  3. ในแผงการนำทาง ให้คลิก Security Groups (กลุ่มความปลอดภัย) แล้วคลิก Create Security Group (สร้างกลุ่มความปลอดภัย)

  4. บนหน้าจอ Create Security Group (สร้างกลุ่มความปลอดภัย) ในฟิลด์ Security group name (ชื่อกลุ่มความปลอดภัย) ให้ป้อนชื่อสำหรับกลุ่มความปลอดภัยของคุณ

  5. ในฟิลด์ Description (คำอธิบาย) ให้ป้อนคำอธิบายเกี่ยวกับกลุ่มความปลอดภัยนี้

  6. ในฟิลด์ VPC ให้เลือก VPC ของคุณจากรายการ

  7. คลิกแท็บ Inbound (ขาเข้า) แล้วคลิก Add Rule (เพิ่มกฎ) ในรายการ Type (ประเภท) จากนั้นเลือก HTTP (80) และในคอลัมน์ Source (แหล่งที่มา) ให้เลือก My IP (IP ของฉัน) สำหรับกฎแต่ละข้อ การทำเช่นนี้จะจำกัดปริมาณการใช้งานขาเข้ามายังคอมพิวเตอร์ของคุณ หากต้องการระบุช่วงที่อยู่ IP แทน ให้เลือก กำหนดเอง แล้วจึงป้อนช่วงในรูปแบบ CIDR

    หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดู Adding Rules to a Security Group (การเพิ่มกฎไปยังกลุ่มความปลอดภัย)(ลิงก์จะเปิดในหน้าต่างใหม่) ใน Amazon EC2 User Guide for Windows Instances ที่เว็บไซต์ AWS

    หมายเหตุ: นี่เป็นพอร์ตที่จำเป็นสำหรับปริมาณการใช้ไซต์ขาเข้าที่ไม่ได้เข้ารหัส

  8. คลิก Add Rule (เพิ่มกฎ) ในรายการ Type (ประเภท) จากนั้นเลือก HTTPS (443) และในคอลัมน์ Source (แหล่งที่มา) ให้เลือก My IP (IP ของฉัน) สำหรับกฎแต่ละข้อ การทำเช่นนี้จะจำกัดปริมาณการใช้งานขาเข้ามายังคอมพิวเตอร์ของคุณ หากต้องการระบุช่วงที่อยู่ IP แทน ให้เลือก กำหนดเอง แล้วจึงป้อนช่วงในรูปแบบ CIDR

    หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดู Adding Rules to a Security Group (การเพิ่มกฎไปยังกลุ่มความปลอดภัย)(ลิงก์จะเปิดในหน้าต่างใหม่) ใน Amazon EC2 User Guide for Windows Instances ที่เว็บไซต์ AWS

    หมายเหตุ: นี่เป็นพอร์ตที่จำเป็นสำหรับปริมาณการใช้ไซต์ขาเข้าที่เข้ารหัส

  9. คลิก Add Rule (เพิ่มกฎ) ในรายการ Type (ประเภท) จากนั้นเลือก RDP (3389) และในคอลัมน์ Source (แหล่งที่มา) ให้เลือก My IP (IP ของฉัน) สำหรับกฎแต่ละข้อ การทำเช่นนี้จะจำกัดปริมาณการใช้งานขาเข้ามายังคอมพิวเตอร์ของคุณ หากต้องการระบุช่วงที่อยู่ IP แทน ให้เลือก กำหนดเอง แล้วจึงป้อนช่วงในรูปแบบ CIDR

    หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดู Adding Rules to a Security Group (การเพิ่มกฎไปยังกลุ่มความปลอดภัย)(ลิงก์จะเปิดในหน้าต่างใหม่) ใน Amazon EC2 User Guide for Windows Instances ที่เว็บไซต์ AWS

    หมายเหตุ: นี่เป็นพอร์ตที่จำเป็นสำหรับตอบรับคำขอ Remote Desktop Protocol (RDP) เพื่อที่คุณจะสามารถเชื่อมต่อกับอินสแตนซ์ EC2 ได้

  10. คลิกสร้าง

ขั้นตอนที่ 3: เปิดใช้อินสแตนซ์ Amazon EC2

หลังจากที่สร้าง VPC แล้ว คุณสามารถเปิดใช้อินสแตนซ์ Amazon EC2 ไปยัง VPC นั้นได้

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีเรียกใช้งานและเชื่อมต่อกับอินสแตนซ์ Windows โปรดดูเริ่มต้นใช้งานด้วยอินสแตนซ์ Amazon EC2 ใน Windows(ลิงก์จะเปิดในหน้าต่างใหม่) ที่ Amazon EC2 User Guide for Windows Instances ในเว็บไซต์ AWS

  1. ไปยัง Amazon EC2 console (คอนโซล Amazon VPC)(ลิงก์จะเปิดในหน้าต่างใหม่) (https://console.aws.amazon.com/ec2/)

  2. ใช้ตัวเลือกภูมิภาคเพื่อเลือกตำแหน่งที่คุณสร้างVPC

  3. ใต้ Create Instance (สร้างอินสแตนซ์) ให้คลิก Launch Instance (เปิดใช้อินสแตนซ์)

  4. เลือก Amazon Machine Image (AMI) ที่ตรงกับ ข้อกำหนดของระบบ สำหรับ Tableau Server

  5. บนหน้าจอ Step 2: Choose Instance Type (ขั้นตอนที่ 2: เลือกประเภทอินสแตนซ์) ให้เลือกขนาดอินสแตนซ์ที่คุณต้องการ (เช่น m4.2xlarge)

    หมายเหตุ: สำหรับ Tableau Server v10 บนเครื่องระบบเสมือน 64 บิต คุณจะต้องใช้คอร์กายภาพอย่างน้อย 4 คอร์ ซึ่งบน AWS จะหมายความว่าใช้ 8 vCPU หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดู Amazon EC2 Instance Types (อินสแตนซ์ Amazon EC2 ประเภทต่างๆ)(ลิงก์จะเปิดในหน้าต่างใหม่) ที่เว็บไซต์ AWS

  6. คลิก Next: Configure Instance Details (ถัดไป: กำหนดค่ารายละเอียดอินสแตนซ์)

  7. บนหน้าจอ Step 3: Configure Instance Details (ขั้นตอนที่ 3: กำหนดค่ารายละเอียดอินสแตนซ์) ที่ในรายการ Network (เครือข่าย) ให้เลือก VPC ของคุณ

  8. คลิกผ่านขั้นตอนต่างๆ ในตัวช่วยจนกว่าคุณจะไปถึง Step 6: Configure Security Group (ขั้นตอนที่ 6: กำหนดค่ากลุ่มความปลอดภัย)

  9. บนหน้าจอ Step 6: Configure Security Group (ขั้นตอนที่ 6: กำหนดค่ากลุ่มความปลอดภัย) ให้คลิก Select an existing security group (เลือกกลุ่มความปลอดภัยที่มีอยู่) แล้วเลือกกลุ่มความปลอดภัยที่คุณสร้างไว้ก่อนหน้านี้

  10. คลิก Review and Launch (ตรวจสอบและเปิดใช้) จากนั้นตรวจสอบการกำหนดค่าของคุณ แล้วคลิก Launch (เปิดใช้)

  11. เมื่อได้รับแจ้ง ให้คุณสร้างคู่คีย์ใหม่ โดยดาวน์โหลดเป็นไฟล์ .pem แล้วเก็บไว้ในจุดที่ปลอดภัย คุณจะต้องใช้คู่คีย์นี้เพื่อสร้างรหัสผ่านสำหรับใช้เข้าสู่ระบบอินสแตนซ์ Amazon EC2

  12. เมื่อคุณสร้างและดาวน์โหลดคู่คีย์เสร็จแล้ว ให้คลิก Launch Instances (เปิดใช้อินสแตนซ์)

  13. คลิก View Instances (ดูอินสแตนซ์) และค้นหาอินสแตนซ์ของคุณในรายการ

  14. คัดลอก ID อินสแตนซ์: คุณจะต้องใช้ข้อมูลนี้ในขั้นตอนต่อไป

ขั้นตอนที่ 4: สร้างที่อยู่ IP แบบยืดหยุ่นสำหรับ VPC

หลังจากที่เปิดใช้อินสแตนซ์ Amazon EC2 แล้ว คุณสามารถสร้างและจัดสรรที่อยู่ IP สาธารณะแบบคงที่ให้กับ VPC ของคุณได้

  1. ไปยัง Amazon VPC console (คอนโซล Amazon VPC)(ลิงก์จะเปิดในหน้าต่างใหม่) (https://console.aws.amazon.com/vpc/)

  2. ใช้ตัวเลือกภูมิภาคเพื่อเลือกตำแหน่งที่คุณสร้างVPC

  3. ในแผงการนำทาง ให้คลิกElastic IPs (IP แบบยืดหยุ่น)

  4. คลิก Allocate new address (จัดสรรที่อยู่ใหม่) แล้วคลิก Allocate (จัดสรร)

  5. ในกล่องโต้ตอบ New address request succeeded (คำขอที่อยู่ใหม่ที่สำเร็จ) ให้คลิกที่อยู่ IP แบบยืดหยุ่นที่ต้องการ

  6. ในเมนู Action (การดำเนินการ) ให้คลิก Associate address (ที่อยู่ที่เกี่ยวข้อง)

  7. ใน Resource type (ประเภททรัพยากร) ให้เลือก Instance (อินสแตนซ์)

  8. ในกล่องรายการดรอปดาวน์ Instance (อินสแตนซ์) ให้เลือกอินสแตนซ์ของคุณ แล้วคลิก Associate (ที่เกี่ยวข้อง)

  9. คัดลอกที่อยู่ IP ส่วนตัวใหม่ คุณจะต้องใช้ข้อมูลนี้ในภายหลัง

ขั้นตอนที่ 5: เข้าสู่ระบบ Amazon EC2

เพื่อให้เรียกใช้ Tableau Server บน AWS ได้ คุณจะต้องติดตั้งบนอินสแตนซ์ Amazon EC2 หรืออินสแตนซ์ที่คุณเพิ่งกำหนดค่าไป เริ่มด้วยการเข้าสู่ระบบไปยังอินสแตนซ์ Amazon EC2 ที่คุณต้องการติดตั้ง Tableau Server

ใช้ Remote Desktop Protocol (RDP) จากคอมพิวเตอร์ที่ใช้งาน Microsoft Windows เพื่อเชื่อมต่อกับอินสแตนซ์ Amazon EC2 ของคุณที่ใช้งาน Microsoft Windows หากคุณทำการเชื่อมต่อจากคอมพิวเตอร์ Linux คุณสามารถใช้ rdesktop เพื่อเชื่อมต่อกับ Amazon EC2 ของคุณที่ใช้งาน Microsoft Windows หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดู Connecting to Your Windows Instance (การเชื่อมต่อกับอินสแตนซ์ Windows ของคุณ) ใน Amazon EC2 User Guide for Windows Instances ที่เว็บไซต์ AWS

  1. ไปยัง Amazon EC2 console (คอนโซล Amazon VPC)(ลิงก์จะเปิดในหน้าต่างใหม่) (https://console.aws.amazon.com/ec2/)

  2. ใช้ตัวเลือกภูมิภาคเพื่อเลือกตำแหน่งที่คุณเปิดใช้อินสแตนซ์ของคุณเอาไว้

  3. ในแดชบอร์ด EC2 ให้คลิก Instances (อินสแตนซ์)

  4. เลือกกล่องทำเครื่องหมายที่อยู่ถัดจากอินสแตนซ์ของคุณ จากนั้นไปที่เมนู Actions (การดำเนินการ) แล้วเลือก Connect (เชื่อมต่อ)

  5. ในกล่องโต้ตอบ Connect To Your Instance (เชื่อมต่อกับอินสแตนซ์ของคุณ) ให้คลิก Download Remote Desktop File (ดาวน์โหลดไฟล์รีโมทเดสก์ท็อป) เพื่อสร้างไฟล์ .rdp ที่กำหนดค่ามาให้เชื่อมต่อกับอินสแตนซ์นั้น ไฟล์ .rdp จะถูกกำหนดค่าให้เชื่อมต่อกับที่อยู่ IP สาธารณะของ VPC ที่คุณได้ระบุไว้ในที่อยู่ IP แบบยืดหยุ่นที่คุณสร้าง

  6. คลิก Get Password (รับรหัสผ่าน) แล้วเลือกไฟล์ .pem สำหรับคู่คีย์ที่คุณสร้างก่อนหน้านี้ ซึ่งจะเป็นการเติมคีย์ส่วนตัวให้กับคู่คีย์ของคุณ

  7. คลิก Decrypt Password (ถอดข้อมูลรหัสผ่าน) เมื่อรหัสผ่านแสดงขึ้น ให้สังเกตที่อยู่ DNS สาธารณะ, ชื่อผู้ใช้ (เช่น ผู้ดูแลระบบ) และรหัสผ่าน

  8. ดับเบิลคลิกที่ไฟล์ .rdp ที่คุณดาวน์โหลดมาก่อนหน้านี้

  9. คลิก Connect (เชื่อมต่อ) (คุณสามารถเพิกเฉยต่อข้อความใดๆ ที่บอกว่าไม่รู้จักผู้เผยแพร่)

  10. ป้อนชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านที่คุณบันทึกไว้ในขั้นตอนที่ผ่านมา จากนั้นคลิกตกลง

  11. คุณสามารถเพิกเฉยต่อคำเตือนใดๆ ที่แจ้งว่าไม่รู้จักผู้เผยแพร่ของการเชื่อมต่อทางไกลดังกล่าว คลิก Yes (ใช่) เพื่อเชื่อมต่อ

ขั้นตอนที่ 6: ติดตั้ง Tableau Server

ถึงตอนนี้เมื่อคุณได้เข้าสู่ระบบอินสแตนซ์ EC2 ของคุณแล้ว คุณก็ติดตั้ง Tableau Server ได้ ขั้นตอนการติดตั้งในอินสแตนซ์ EC2 เหมือนกันกับการติดตั้งในคอมพิวเตอร์อื่นใดก็ตาม ดูคำแนะนำได้ที่หัวข้อติดตั้งและกำหนดค่า

หลังจากที่ติดตั้ง Tableau Server รวมถึงสร้างบัญชีผู้ดูแลระบบ Tableau Server และเข้าสู่ระบบแล้ว คุณสามารถเพิ่มผู้ใช้ได้

หากคุณต้องการเรียกใช้คลัสเตอร์ Tableau Server ให้ตดตั้ง Tableau Server เพิ่มบนอินสแตนซ์ Amazon EC2 ใหม่ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดู ปรับใช้ Tableau Server เองบน AWS ในสภาพแวดล้อมแบบกระจาย