ประเภทการคำนวณตาราง
บทความนี้อธิบายประเภทของการคำนวณตารางที่ใช้ได้ใน Tableau และเวลาที่ควรใช้ บทความนี้ให้ตัวอย่างง่าบๆ เพื่อแสดงวิธีที่การคำนวณแปลงข้อมูลในตาราง หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมของวิธีสร้างและกำหนดค่าการคำนวณตาราง โปรดดู สร้างการคำนวณตาราง
การคำนวณความแตกต่างจาก
การคำนวณตารางความแตกต่างจาก จะคำนวณความแตกต่างระหว่างค่าปัจจุบันและค่าอื่นในตารางวสำหรับแต่ละเครื่องหมายในการแสดงเป็นภาพ
การคำนวณความแตกต่างจาก ความแตกต่างของเปอร์เซ็นต์จาก หรือเปอร์เซ็นต์จากจะทำให้มีสองค่าที่ควรพิจารณาอยู่เสมอ ได้แก่ ค่าปัจจุบันและค่าที่ควรคำนวณความแตกต่าง ในกรณีส่วนใหญ่ คุณต้องการคำนวณความแตกต่างระหว่างค่าปัจจุบันและค่าก่อนหน้า ดังเช่นในขั้นตอนด้านบน แต่ในบางกรณีคุณอาจต้องการสิ่งที่แตกต่างออกไป
หากต้องการระบุค่าที่ควรคำนวณความแตกต่าง ให้ทำดังนี้
คลิกขวาที่การวัดผลในมุมมองและเลือกเพิ่มการคำนวณตาราง
ในกล่องโต้ตอบ “การคำนวณตาราง” ให้เลือกตัวเลือกต่อไปนี้สำหรับสัมพันธ์กับ
ก่อนหน้า คำนวณความแตกต่างระหว่างค่าปัจจุบันและค่าก่อนหน้าในขอบเขต นี่คือค่าเริ่มต้น ถัดไป คำนวณความแตกต่างระหว่างค่าปัจจุบันและค่าถัดไปในขอบเขต แรก คำนวณความแตกต่างระหว่างค่าปัจจุบันและค่าแรกในขอบเขต สุดท้าย คำนวณความแตกต่างระหว่างค่าปัจจุบันและค่าสุดท้ายในขอบเขต
ตัวอย่าง
พิจารณาตารางข้อความด้านล่าง ซึ่งแสดงยอดขายรวมต่อเดือนสำหรับปี 2011, 2012, 2013 และ 2014 ของเครือข่ายร้านค้าขนาดใหญ่
คุณสามารถใช้การคำนวณตารางความแตกต่างจากเพื่อคำนวณความผันผวนของยอดขาย (ลักษณะการขึ้นหรือลง) ระหว่างปีสำหรับแต่ละเดือน
คุณจะเห็นว่าเดือนมกราคา มีความแตกต่างอยู่ 368 USD ระหว่างยอดขายในปี 2012 และ 2013 และที่ 26,161 USD ระหว่างยอดขายในปี 2013 และ 2014
เคล็ดลับ: เมื่อคำนวณอัตราการเติบโตปีต่อปี ปีแรกจะไม่มีปีก่อนหน้าให้เปรียบเทียบด้วย ดังนั้นคอลัมน์จึงว่างเปล่า ซ่อนคอลัมน์ที่คุณไม่ต้องการแสดงเพื่อไม่ต้องไปแตะต้องในการคำนวณ สำหรับรายละเอียด ดูที่ซ่อนแถวและคอลัมน์
เพราะเหตุใด ถ้าคุณกรองปีแรกออกเพื่อเอาออกจากมุมมอง ระบบจะลบออกจากการคำนวณด้วย ดังนั้นปีที่สองจะไม่มีปีก่อนหน้าเพื่อให้เปรียบเทียบ และจีงว่างเปล่า ให้คุณซ่อนคอลัมน์แทนการกรองเพื่อไม่ต้องไปแตะต้องในการคำนวณ
การคำนวณแบบเคลื่อนที่
สำหรับแต่ละเครื่องหมายในมุมมอง การคำนวณตารางการคำนวณแบบเคลื่อนที่ (บางครั้งเรียกว่าการคำนวณ แบบเคลื่อนไหว ) จะกำหนดค่าค่าสำหรับเครื่องหมายในมุมมองโดยการรวมยอด (ผลรวม ค่าเฉลี่ย ค่าต่ำสุด หรือค่าสูงสุด) ภายใต้ตัวเลือกของค่าที่ระบุไว้ก่อนและ/หรือหลังจากค่าปัจจุบัน
โดยทั่วไปจะใช้การคำนวณแบบเคลื่อนที่เพื่อปรับให้ความผันผวนระยะสั้นของข้อมูลให่ราบเรียบเพื่อให้เห็นแนวโน้มข้อมูลระยะยาวได้ ตัวอย่างเช่น ข้อมูลหลักทรัพย์ จะมีความผันผวนมากมายทุกวันซึ่งยากที่จะมองเห็นภาพรวมที่ชัดเจนได้จากค่าที่ขึ้นลงนั้น คุณสามารถใช้การคำนวณแบบเคลื่อนที่เพื่อกำหนดช่วงของค่าเพื่อสรุปโดยใช้การรวมยอดของช่วงที่คุณเลือก
ตัวอย่าง
พิจารณาตารางข้อความด้านล่าง ซึ่งแสดงยอดขายรวมต่อเดือนสำหรับปี 2011, 2012, 2013 และ 2014 ของเครือข่ายร้านค้าขนาดใหญ่
คุณสามารถใช้การคำนวณแบบเคลื่อนที่เพื่อดูลักษณะแนวโน้มชของผลรวมยอดขาย ซึ่งทำได้โดย แปลงผลรวมรายเดือนเพื่อให้คิดค่าเฉลี่ยผลรวมรายเดือนและของสองเดือนก่อนหน้าออกมาเป็นช่วงเวลาหนึ่ง
คุณจะเห็นยอดขายเฉลี่ยตามเส้นเวลาได้ ตัวอย่างเช่น ค่าที่แสดงสำหรับเดือนธันวาคม 2011 เป็นยอดขายเฉลี่ยของเดือนตุลาคม พฤศจิกายน และธันวาคม 2011 ค่าที่แสดงสำหรับเดือนมกราคม 2012 เป็นยอดขายเฉลี่ยของเดือนพฤศจิกายน และธันวาคม 2011 และมกราคม 2012
เพิ่มการคำนวณรอง
ด้วยการคำนวณตารางผลรวมสะสมและการคำนวณตารางการคำนวณแบบเคลื่อนที่ คุณมีตัวเลือกในการแปลงค่าสองครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่คุณต้องการ กล่าวคือ การเพิ่มการคำนวณตารางรองที่ด้านบนของการคำนวณตารางหลัก ตัวอย่างเช่น คุณสามารถเพิ่มการคำนวณตารางเริ่มต้นเพื่อคำนวณยอดรวมของยอดขายต่อเดือนภายในแต่ละปี จากนั้นจึงเพิ่มการคำนวณรองเพื่อคำนวณความแตกต่างของเปอร์เซ็นต์แบบปีต่อปีสำหรับแต่ละเดือนจากหนึ่งปีไปยังอีกปีหนึ่ง
สำหรับตัวอย่างแสดงวิธีการสร้างการคำนวณสำรอง ดูที่ การคำนวณจำนวนสะสม
การคำนวณเปอร์เซ็นต์ความแตกต่างจาก
การคำนวณตาราง เปอร์เซ็นต์ความแตกต่างจาก จะคำนวณความแตกต่างระหว่างค่าปัจจุบันและค่าอื่นในตารางเป็นเปอร์เซ็นต์สำหรับแต่ละเครื่องหมายในการแสดงเป็นภาพ
การคำนวณความแตกต่างจาก ความแตกต่างของเปอร์เซ็นต์จาก หรือเปอร์เซ็นต์จากจะทำให้มีสองค่าที่ควรพิจารณาอยู่เสมอ ได้แก่ ค่าปัจจุบันและค่าที่ควรคำนวณความแตกต่าง ในกรณีส่วนใหญ่ คุณต้องการคำนวณความแตกต่างระหว่างค่าปัจจุบันและค่าก่อนหน้า ดังเช่นในขั้นตอนด้านบน แต่ในบางกรณีคุณอาจต้องการสิ่งที่แตกต่างออกไป
หากต้องการระบุค่าที่ควรคำนวณความแตกต่าง ให้ทำดังนี้
คลิกขวาที่การวัดผลในมุมมองและเลือกเพิ่มการคำนวณตาราง
ในกล่องโต้ตอบ “การคำนวณตาราง” ให้เลือกตัวเลือกต่อไปนี้สำหรับสัมพันธ์กับ
ก่อนหน้า คำนวณความแตกต่างระหว่างค่าปัจจุบันและค่าก่อนหน้าในขอบเขต นี่คือค่าเริ่มต้น ถัดไป คำนวณความแตกต่างระหว่างค่าปัจจุบันและค่าถัดไปในขอบเขต แรก คำนวณความแตกต่างระหว่างค่าปัจจุบันและค่าแรกในขอบเขต สุดท้าย คำนวณความแตกต่างระหว่างค่าปัจจุบันและค่าสุดท้ายในขอบเขต
ตัวอย่าง
พิจารณาตารางข้อความด้านล่าง ซึ่งแสดงยอดขายรวมต่อเดือนสำหรับปี 2011, 2012, 2013 และ 2014 ของเครือข่ายร้านค้าขนาดใหญ่
คุณสามารถใช้การคำนวณตาราง “เปอร์เซ็นต์ความแตกต่างจาก” เพื่อคำนวณลักษณะความผันผวนของยอดขาย (ลักษณะขึ้นหรือลง) ระหว่างปีของแต่ละเดือน ค่าจะถูกคำนวณเป็นเปอร์เซ็นต์
คุณจะเห็นว่าระหว่างเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ 2011 มียอดขายแตกต่างกัน -66% แต่ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม 2011 จะมีการปรับปรุงดีมากด้วยยอดขายเพิ่ม 1,058%
การคำนวณเปอร์เซ็นต์จาก
การคำนวณตารางเปอร์เซ็นต์จาก จะคำนวณค่าเป็นเปอร์เซ็นต์ของค่าอื่นบางค่า โดยทั่วไปเป็นเปอร์เซ็นต์ของค่าก่อนหน้าในตาราง สำหรับแต่ละเครื่องหมายในการแสดงเป็นภาพ
การคำนวณความแตกต่างจาก ความแตกต่างของเปอร์เซ็นต์จาก หรือเปอร์เซ็นต์จากจะทำให้มีสองค่าที่ควรพิจารณาอยู่เสมอ ได้แก่ ค่าปัจจุบันและค่าที่ควรคำนวณความแตกต่าง ในกรณีส่วนใหญ่ คุณต้องการคำนวณความแตกต่างระหว่างค่าปัจจุบันและค่าก่อนหน้า ดังเช่นในขั้นตอนด้านบน แต่ในบางกรณีคุณอาจต้องการสิ่งที่แตกต่างออกไป
หากต้องการระบุค่าที่ควรคำนวณความแตกต่าง ให้ทำดังนี้
คลิกขวาที่การวัดผลในมุมมองและเลือกเพิ่มการคำนวณตาราง
ในกล่องโต้ตอบ “การคำนวณตาราง” ให้เลือกตัวเลือกต่อไปนี้สำหรับสัมพันธ์กับ
ก่อนหน้า คำนวณความแตกต่างระหว่างค่าปัจจุบันและค่าก่อนหน้าในขอบเขต นี่คือค่าเริ่มต้น ถัดไป คำนวณความแตกต่างระหว่างค่าปัจจุบันและค่าถัดไปในขอบเขต แรก คำนวณความแตกต่างระหว่างค่าปัจจุบันและค่าแรกในขอบเขต สุดท้าย คำนวณความแตกต่างระหว่างค่าปัจจุบันและค่าสุดท้ายในขอบเขต
ตัวอย่าง
พิจารณาตารางข้อความด้านล่าง ซึ่งแสดงยอดขายรวมต่อเดือนสำหรับปี 2011, 2012, 2013 และ 2014 ของเครือข่ายร้านค้าขนาดใหญ่
คุณสามารถใช้การคำนวณตาราง “เปอร์เซ็นต์จาก” เพื่อคำนวณเปอร์เซ็นต์ของค่าก่อนหน้า เช่น คุณสามารถคำนวณเปอร์เซ็นต์ของยอดขายเดือนมกราคม 2011 ที่ทำในเดือนกุมภาพันธ์ 2011
คุณจะเห็นว่าเดือนเดือนกุมภาพันธ์ 2011 มียอดเป็น 34% ของยอดขายในเดือนมกราคม 2011 มีนาคม 2011 ทำได้เพิ่ม 1,158% ของยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ เป็นต้น
การคำนวณเปอร์เซ็นต์ของทั้งหมด
สำหรับแต่ละเครื่องหมายในมุมมอง การคำนวณตาราง เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมด จะคำนวณค่าเป็นเปอร์เซ็นต์ของค่าทั้งหมดในพาร์ทิชั่นปัจจุบัน
ตัวอย่าง
พิจารณาตารางข้อความด้านล่าง ซึ่งแสดงยอดขายรวมต่อเดือนสำหรับปี 2011, 2012, 2013 และ 2014 ของเครือข่ายร้านค้าขนาดใหญ่
คุณสามารถใช้การคำนวณตาราง “เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมด” เพื่อคำนวณค่าเป็นเปอร์เซ็นต์ของยอดขายรวมแต่ละเดือนภายในไตรมาสได้ ตัวอย่าง คุณจะเห็นว่าเดือนมกราคม 2011 ทำได้คิดเป็น 18.73% ของไตรมาสที่ 1
หรือคุณสามารถคำนวณเปอร์เซ็นต์ของยอดขายรวมแต่ละเดือนภายในปีได้ ตัวอย่าง คุณจะเห็นว่าเดือนมกราคม 2011 ทำได้คิดเป็น 2.88% ของปี 2011
การคำนวณเปอร์เซ็นต์ไทล์
สำหรับแต่ละเครื่องหมายในมุมมอง การคำนวณตาราง เปอร์เซ็นต์ไทล์ จะคำนวณอันดับเปอร์เซ็นต์ไทล์สำหรับแต่ละค่าในพาร์ทิชั่น
ตัวอย่าง
พิจารณาตารางข้อความด้านล่าง ซึ่งแสดงยอดขายรวมต่อเดือนสำหรับปี 2011, 2012, 2013 และ 2014 ของเครือข่ายร้านค้าขนาดใหญ่
คุณสามารถใช้ตารางเปอร์เซ็นไทล์เพื่อจัดอันดับยอดขายรวมสำหรับแต่ละเดือนในปีเป็นเปอร์เซ็นต์ แทนจำนวนทั้งหมด (เช่น 1 ถึง 10)
เนื่องจากเดือนกุมภาพันธ์มียอดขายน้อยที่สุดในปี 2012 เมื่อเทียบกับยอดรวมทั้งหมด อันดับจึงเป็น 0.0% (หรือตัวเลข 1 จาก 12 เนื่องจากตัวอย่างนี้เป็นลำดับแบบจากน้อยไปหามาก ดังนั้นลำดับจึงเป็นน้อยสุดไปหามากสุด) ยอดขายในเดือนมกราคม 2012 สูงกว่าเล็กน้อยและดังนั้นจึงถูกจัดอันดับเป็น 9.1% (หรือตัวเลข 2 จาก 12) เนื่องจากเดือนพฤศจิกายนมียอดขายมากที่สุดในปี 2012 จึงมีอันดับเป็น 100% (หรือตัวเลข 12 จาก 12)
จากมากไปน้อย vs. จากน้อยไปมาก
ลำดับจากน้อยไปมากจะจัดอันดับจากน้อยที่สุดไปมากที่สุด ลำดับจากมากไปน้อยจะจัดอันดับจากมากที่สุดไปน้อยที่สุด
การคำนวณอันดับ
สำหรับแต่ละเครื่องหมายในมุมมอง การคำนวณตาราง อันดับ จะคำนวณการจัดอันดับสำหรับแต่ละค่าในพาร์ทิชั่น
ตัวอย่าง
พิจารณาตารางข้อความด้านล่าง ซึ่งแสดงยอดขายรวมต่อเดือนสำหรับปี 2011, 2012, 2013 และ 2014 ของเครือข่ายร้านค้าขนาดใหญ่
คุณสามารถใช้การคำนวณตารางอันดับเพื่อคำนวณการจัดอันดับของแต่ละเดือนในปี
คุณจะเห็นว่า เนื่องจากเดือนพฤศจิกายนมียอดขายมากที่สุดในปี 2012 จึงมีอันดับเป็น 1 (เนื่องจากอันดับเป็นลำดับจากมากไปหาน้อย หมายความว่าเป็นการจัดลำดับจากมากที่สุดไปหาน้อยที่สุด) เนื่องจากเดือนกุมภาพันธ์มียอดขายน้อยที่สุดในปี 2012 จึงมีอันดับเท่ากับ 12
จากมากไปน้อย vs. จากน้อยไปมาก
ลำดับจากน้อยไปมากจะจัดอันดับจากน้อยที่สุดไปมากที่สุด ลำดับจากมากไปน้อยจะจัดอันดับจากมากที่สุดไปน้อยที่สุด สำหรับการคำนวนตาราง “อันดับ” ค่าเริ่มต้นคือ จากมากไปหาน้อย
ประเภทอันดับ
ปัญหาหนึ่งกับการคำนวณh อันดับ คืออาจมีมากกว่าหนึ่งเครื่องหมายที่มีค่าเดียวกัน ตัวอย่างเช่น จะเป็นอย่างไรถ้าตารางในภูมิภาคกลางและเครื่องใช้ในภูมิภาคใต้มียอดขายเท่ากันพอดี $36,729 Tableau อนุญาตให้คุณระบุวิธีจัดการกับกรณีดังกล่าวโดยการรวมฟิลด์เพิ่มเติมลงในกล่องโต้ตอบ “การคำนวณตาราง” เมื่อคุณตั้งค่าt ประเภทการคำนวณ เป็น อันดับ
ตัวเลือกจะแสดงไว้ด้านล่าง ตัวเลขลำดับที่จุดเริามต้นของแต่ละตัวเลือกจะแสดงลักษณะการจัดอันดับของแต่ละตัวเลือกจากชุดของสมมติฐานสี่ค่าซึ่งสองค่าเท่ากันพอดี
ตัวเลือก | ผลลัพธ์ |
การแข่งขัน (1, 2, 2, 4) | ค่าที่เหมือนกันถูกกำหนดให้อยู่ในอันดับที่เหมือนกัน ค่าสูงสุดจะได้รับการจัดอันดับเป็นอันดับ 1 และอีกสองค่าถัดไปซึ่งเป็นค่าที่เหมือนกันคืออันดับ 2 ค่าถัดไปจะอยู่ในอันดับที่ 4 |
แก้ไขการแข่งขัน (1, 3, 3, 4) | ค่าที่เหมือนกันถูกกำหนดให้อยู่ในอันดับที่เหมือนกัน ค่าสูงสุดจะได้รับการจัดอันดับเป็นอันดับ 1 และอีกสองค่าถัดไปซึ่งเป็นค่าที่เหมือนกันคืออันดับ 3 ค่าถัดไปจะอยู่ในอันดับที่ 4 |
หนาแน่น (1, 2, 2, 3) | ค่าที่ซ้ำกันจะมีอันดับเดียวกัน ซึ่งคือตัวเลขถัดไปในลำดับของการจัดอันดับ ค่าถัดไปหลังจากค่าที่ซ้ำกันถูกคำนวณเหมือนกับค่าที่ซ้ำกันเป็นค่าเดี่ยว |
ไม่ซ้ำใคร (1, 2, 3, 4) | ค่าที่ซ้ำกันจะถูกกำหนดอันดับที่ไม่ซ้ำกันตามการกำหนดทิศทางของการประมวลผลการจัดอันดับ |
การคำนวณจำนวนสะสม
สำหรับแต่ละเครื่องหมายในมุมมอง การคำนวณตาราง ผลรวมสะสมจะรวมยอดค่าแบบสะสมในพาร์ทิชั่น ซึ่งสามารถทำได้ด้วยการรวมค่า การหาค่าเฉลี่ยของค่า หรือการแทนที่ค่าทั้งหมดด้วยค่าจริงที่ต่ำสุดหรือสูงสุด
สมมติว่าคุณกำลังเริ่มต้นด้วยมุมมองข้อความต่อไปนี้ ซึ่งแสดงยอดขายรวมแยกตามปี (จากซ้ายไปขวา) และตามไตรมาสและเดือน (จากบนลงล่าง)
คุณต้องการเห็นผลรวมสะสมของยอดขายสำหรับแต่ละปี ดังนั้นยอดขายของแต่ละเดือนจะถูกเพิ่มไปยังยอดขายของเดือนก่อนหน้าทั้งหมด แทนการใช้ค่ายอดขายที่สมบูรณ์
สร้างมุมมองพื้นฐาน
เชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลตัวอย่าง - Superstore
คลิกและลากฟิลด์วันที่สั่งซื้อในแผงข้อมูลไปยังแถบคอลัมน์
ระดับวันที่เริ่มต้นคือ ปี(วันที่สั่งซื้อ)
คลิกและลากวันที่สั่งซื้ออีกครั้งแล้ววางลงบนแถบแถวในครั้งนี้
คลิกทางด้านขวาของฟิลด์เพื่อเปิดเมนูบริบท จากนั้นเลือกไตรมาส
คุณจะเห็นตัวเลือกสองรายการที่ชื่อว่าไตรมาส อย่าลืมเลือกตัวเลือกแรก
ตอนนี้ฟิลด์ควรแสดงเป็นไตรมาส(วันที่คำสั่ง)
หมายเหตุ: หากคุณกำลังสร้างมุมมองบนเว็บ เมนูจะดูแตกต่างเล็กน้อย
คลิกและลากวันที่สั่งซื้อครั้งที่สามและวางลงบนแถบแถวทางด้านขวาของไตรมาส(วันที่สั่งซื้อ)
คลิกทางด้านขวาของฟิลด์เพื่อเปิดเมนูบริบทและเลือกเดือนในครั้งนี้ (อย่าลืมเลือกตัวเลือกแรกจากตัวเลือกสองรายการที่ชื่อว่าเดือน) ตอนนี้ฟิลด์ควรแสดงเป็นเดือน(วันที่สั่งซื้อ)
ลากยอดขายจากแผงข้อมูลและวางลงบนข้อความในการ์ดเครื่องหมาย
ตอนนี้คุณมีมุมมองพื้นฐาน ซึ่งแสดงยอดขายตามวันที่สั่งซื้อในช่วงสี่ปี ตามเดือน ไตรมาส และปี
เพิ่มการคำนวณตารางยอดขายรวมสะสมไปยังมุมมองพื้นฐาน
คลิก SUM(ยอดขาย) บนบัตรเครื่องหมาย แล้วเลือก เพิ่มการคำนวณตาราง
ในกล่องโต้ตอบ “การคำนวณตาราง” เลือก จำนวนสะสม เป็น ประเภทการคำนวณ
เลือก ตาราง (ลง) จากรายการ คำนวณโดยใช้
การเน้นในมุมมองแสดงลักษณะของค่าของ คำนวณโดยใช้ กำหนดขอบเขตของการคำนวณในมุมมอง
การเปรียบเทียบค่าในมุมมองข้อความเริ่มต้นกับค่าในมุมมองนี้แสดงให้เห็นว่าผลลัพธ์ถูกต้อง ค่ารายเดือนมีลำดับจากน้อยไปหามากอย่างคงที่และค่าเดือนธันวาคม (484,247) เป็นค่าเดียวกับที่คุณเห็นถ้าคุณแสดงคอลัมน์รวมทั้งหมด (จากเมนูการวิเคราะห์ เลือก ผลรวม > แสดงคอลัมน์รวมทั้งหมด)
คลิก X ที่มุมบนขวาของกล่องโต้ตอบ “การคำนวณตาราง” เพื่อปิด
จำนวนสะสมไม่ต้องเป็นผลรวม
สำหรับการคำนวณตารางจำนวนสะสม Tableau สามารถอัปเดตค่าสะสมในวิธีอื่นที่นอกเหนือจากการคิดผลรวม เลือกตัวเลือกหนึ่งใดจากรายการแบบหล่นลงด้านล่างฟิลด์ ประเภทการคำนวณ
ตัวเลือก | ความหมาย |
ผลรวม | แต่ละค่าถูกเพิ่มไปยังค่าก่อนหน้า |
เฉลี่ย | จำนวนสะสมจะคิดค่าเฉลี่ยของค่าปัจจุบันและค่าก่อนหน้าทั้งหมด |
ขั้นต่ำ | ค่าทั้งหมดถูกแทนที่ด้วยค่าต่ำสุดในพาร์ทิชั่นเริ่มต้น |
สูงสุด | ค่าทั้งหมดถูกแทนที่ด้วยค่าสูงสุดในพาร์ทิชั่นเริ่มต้น |
ตัวเลือกการรีสตาร์ททุก
ตัวเลือกการรีสตาร์ททุกจะมีให้เลือกเมื่อคุณเลือกมิติข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงในกล่องโต้ตอบ “การคำนวณตาราง” และเมื่อมีการเลือกมิติข้อมูลมากกว่าหนึ่งรายการทันทีในฟิลด์ด้านล่างตัวเลือกคำนวณโดยใช้เท่านั้น นั่นคือ เมื่อมีการกำหนดมิติข้อมูลมากกว่าหนึ่งรายการเป็นฟิลด์การกำหนด
ตัวเลือกนี้จะไม่มีให้เลือกเมื่อคุณกำหนดการคำนวณตารางด้วยคำนวณโดยใช้
คุณสามารถใช้การตั้งค่านี้เพื่อกำหนดจุดแบ่ง (นั่นคือ การรีสตาร์ทการคำนวณ) ในมุมมอง ตามมิติข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงได้
การรีสตาร์ททุกจะเป็นประโยชน์ในสถานการณ์ต่อไปนี้
หากมีวันที่หรือลำดับชั้นอื่นๆ ในกรณีที่คุณรีสตาร์ททุกเดือน เมื่อคุณนำปีหรือไตรมาสเข้ามา Tableau จะรับทราบเพื่อแบ่งขอบเขตโดยอัตโนมัติ
หากไม่ใช่ลำดับชั้น การรีสตาร์ททุกจะส่งผลต่อการจัดเรียง หากคุณต้องการจัดการกับผลิตภัณฑ์และแบ่งขอบเขตตามรัฐ แต่ต้องการให้ผลิตภัณฑ์จัดเรียงตามผลรวม(ยอดขาย) ภายในแต่ละรัฐ คุณจะต้องระบุรัฐเป็นฟิลด์การกำหนดในส่วนมิติข้อมูลที่เฉพาะเจาะจง แต่หลังจากนั้นให้รีสตาร์ททุกรัฐ มิเช่นนั้น การจัดเรียงตามผลรวม(ยอดขาย) จะอิงตามผลรวมยอดขายผลิตภัณฑ์แต่ละรายการจากทุกรัฐ
ตัวอย่าง ถ้าคุณใช้ผลลัพธ์ของการคำนวณ จำนวนสะสม ที่คุณเพิ่มไว้ข้างต้น คุณจะเห็นผลกระทบของ เริ่มใหม่ทุกโดยทำดังต่อไปนี้
คลิกฟิลด์ SUM(ยอดขาย) บนบัตรเครื่องหมาย แล้วเลือก แก้ไขการคำนวณตาราง
ในกล่องโต้ตอบ “การคำนวณตาราง” เลือก มิติข้อมูลที่ระบุ
สังเกตว่ามีมิติข้อมูลสองรายการถูกเลือกในกล่องกาเลือกของมิติข้อมูล: ไตรมาสของวันที่สั่งซื้อ และ เดือนของวันที่สั่งซื้อ เหล่านี้เป็นฟิลด์การกำหนดทิศทาง และเนื่องจากมีมากกว่าหนึ่งฟิลด์ถูกใช้สำหารับการกำหนดทิศทาง ดังนั้นการรีสตาร์ททุกครั้งจะพร้อมใช้งาน
ตัวเลือกที่มีอยู่จากรายการแบบเลื่อนลงที่ระดับคือ:
ไม่มี ระบุว่าควรทำการคำนวณที่ระดับความละเอียดที่ละเอียดที่สุด นี่เป็นตัวเลือกเริ่มต้น ตัวเลือกนี้ไม่ได้เปลี่ยนมุมมอง ไตรมาสของวันที่สั่งซื้อ ระบุว่าควรทำการคำนวณที่ระดับไตรมาส ถ้าคุณเลือกไตรมาสของวันที่สั่งซื้อ มุมมองจะอัปเดตเพื่อแสดงผลของการเปลี่ยนแปลงนี้:
ตอนนี้การคำนวณจะเริ่มใหม่ทุกไตรมาส ถ้าคุณคลิกกายกเลิกเลือกกล่องการคำนวณตาราง (เพื่อละทิ้วการเน้น) คุณจะเห็นได้ชัดเจนขึ้น
คลิก X ที่มุมบนขวาของกล่องโต้ตอบ “การคำนวณตาราง” เพื่อปิด
เพิ่มการคำนวณรอง
ด้วยการคำนวณตารางผลรวมสะสมและการคำนวณตารางการคำนวณแบบเคลื่อนที่ คุณมีตัวเลือกในการแปลงค่าสองครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่คุณต้องการ กล่าวคือ การเพิ่มการคำนวณตารางรองที่ด้านบนของการคำนวณตารางหลัก ตัวอย่างเช่น คุณสามารถเพิ่มการคำนวณตารางเริ่มต้นเพื่อคำนวณยอดรวมของยอดขายต่อเดือนภายในแต่ละปี จากนั้นจึงเพิ่มการคำนวณรองเพื่อคำนวณความแตกต่างของเปอร์เซ็นต์แบบปีต่อปีสำหรับแต่ละเดือนจากหนึ่งปีไปยังอีกปีหนึ่ง
ซึ่งทำได้โดย อันดับแรกเพิ่มการคำนวณตารางหลักตามที่แสดงข้างบน จากนั้นดำเนินการต่อดังนี้:
คลิกฟิลด์ SUM(ยอดขาย) บนบัตร “เครื่องหมาย” แล้วเลือก แก้ไขการคำนวณตาราง
ในกลอ่งโต้ตอบ “การคำนวณตาราง” ให้คลิกเพิ่มการคำนวณรอง
ในกลอ่งโต้ตอบ “การคำนวณตาราง” จะขยายเพื่อแสดงแผงที่สอง
ในแผงที่สอง เลือก เปอร์เซ็นต์ความแตกต่างจาก เป็น ประเภทการคำนวณรอง
คุณไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนการเลือก คำนวณโดยใช้ : ตาราง (ข้าม) เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม
คลิก X ที่มุมบนขวาของกล่องโต้ตอบ “การคำนวณตาราง” เพื่อยกเลิกการเลือก
ตอนนี้มุมมองของคุณจะแสดงสิ่งที่คุณต้องการ นั่นคือ ความแตกต่างของเปอร์เซ็นต์ปีต่อปีของผลรวมสะสม:
ดูเพิ่มเติม