ประเภทการคำนวณตาราง

บทความนี้อธิบายประเภทของการคำนวณตารางที่ใช้ได้ใน Tableau และเวลาที่ควรใช้ บทความนี้ให้ตัวอย่างง่าบๆ เพื่อแสดงวิธีที่การคำนวณแปลงข้อมูลในตาราง หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมของวิธีสร้างและกำหนดค่าการคำนวณตาราง โปรดดู สร้างการคำนวณตาราง

การคำนวณความแตกต่างจาก

การคำนวณตารางความแตกต่างจาก จะคำนวณความแตกต่างระหว่างค่าปัจจุบันและค่าอื่นในตารางวสำหรับแต่ละเครื่องหมายในการแสดงเป็นภาพ

การคำนวณความแตกต่างจาก ความแตกต่างของเปอร์เซ็นต์จาก หรือเปอร์เซ็นต์จากจะทำให้มีสองค่าที่ควรพิจารณาอยู่เสมอ ได้แก่ ค่าปัจจุบันและค่าที่ควรคำนวณความแตกต่าง ในกรณีส่วนใหญ่ คุณต้องการคำนวณความแตกต่างระหว่างค่าปัจจุบันและค่าก่อนหน้า ดังเช่นในขั้นตอนด้านบน แต่ในบางกรณีคุณอาจต้องการสิ่งที่แตกต่างออกไป

หากต้องการระบุค่าที่ควรคำนวณความแตกต่าง ให้ทำดังนี้

  1. คลิกขวาที่การวัดผลในมุมมองและเลือกเพิ่มการคำนวณตาราง

  2. ในกล่องโต้ตอบ “การคำนวณตาราง” ให้เลือกตัวเลือกต่อไปนี้สำหรับสัมพันธ์กับ

    ก่อนหน้าคำนวณความแตกต่างระหว่างค่าปัจจุบันและค่าก่อนหน้าในขอบเขต นี่คือค่าเริ่มต้น
    ถัดไปคำนวณความแตกต่างระหว่างค่าปัจจุบันและค่าถัดไปในขอบเขต
    แรกคำนวณความแตกต่างระหว่างค่าปัจจุบันและค่าแรกในขอบเขต
    สุดท้ายคำนวณความแตกต่างระหว่างค่าปัจจุบันและค่าสุดท้ายในขอบเขต

ตัวอย่าง

พิจารณาตารางข้อความด้านล่าง ซึ่งแสดงยอดขายรวมต่อเดือนสำหรับปี 2011, 2012, 2013 และ 2014 ของเครือข่ายร้านค้าขนาดใหญ่

คุณสามารถใช้การคำนวณตารางความแตกต่างจากเพื่อคำนวณความผันผวนของยอดขาย (ลักษณะการขึ้นหรือลง) ระหว่างปีสำหรับแต่ละเดือน

คุณจะเห็นว่าเดือนมกราคา มีความแตกต่างอยู่ 368 USD ระหว่างยอดขายในปี 2012 และ 2013 และที่ 26,161 USD ระหว่างยอดขายในปี 2013 และ 2014

เคล็ดลับ: เมื่อคำนวณอัตราการเติบโตปีต่อปี ปีแรกจะไม่มีปีก่อนหน้าให้เปรียบเทียบด้วย ดังนั้นคอลัมน์จึงว่างเปล่า ซ่อนคอลัมน์ที่คุณไม่ต้องการแสดงเพื่อไม่ต้องไปแตะต้องในการคำนวณ สำหรับรายละเอียด ดูที่ซ่อนแถวและคอลัมน์

เพราะเหตุใด ถ้าคุณกรองปีแรกออกเพื่อเอาออกจากมุมมอง ระบบจะลบออกจากการคำนวณด้วย ดังนั้นปีที่สองจะไม่มีปีก่อนหน้าเพื่อให้เปรียบเทียบ และจีงว่างเปล่า ให้คุณซ่อนคอลัมน์แทนการกรองเพื่อไม่ต้องไปแตะต้องในการคำนวณ

การคำนวณแบบเคลื่อนที่

สำหรับแต่ละเครื่องหมายในมุมมอง การคำนวณตารางการคำนวณแบบเคลื่อนที่ (บางครั้งเรียกว่าการคำนวณ แบบเคลื่อนไหว ) จะกำหนดค่าค่าสำหรับเครื่องหมายในมุมมองโดยการรวมยอด (ผลรวม ค่าเฉลี่ย ค่าต่ำสุด หรือค่าสูงสุด) ภายใต้ตัวเลือกของค่าที่ระบุไว้ก่อนและ/หรือหลังจากค่าปัจจุบัน

โดยทั่วไปจะใช้การคำนวณแบบเคลื่อนที่เพื่อปรับให้ความผันผวนระยะสั้นของข้อมูลให่ราบเรียบเพื่อให้เห็นแนวโน้มข้อมูลระยะยาวได้ ตัวอย่างเช่น ข้อมูลหลักทรัพย์ จะมีความผันผวนมากมายทุกวันซึ่งยากที่จะมองเห็นภาพรวมที่ชัดเจนได้จากค่าที่ขึ้นลงนั้น คุณสามารถใช้การคำนวณแบบเคลื่อนที่เพื่อกำหนดช่วงของค่าเพื่อสรุปโดยใช้การรวมยอดของช่วงที่คุณเลือก

ตัวอย่าง

พิจารณาตารางข้อความด้านล่าง ซึ่งแสดงยอดขายรวมต่อเดือนสำหรับปี 2011, 2012, 2013 และ 2014 ของเครือข่ายร้านค้าขนาดใหญ่

คุณสามารถใช้การคำนวณแบบเคลื่อนที่เพื่อดูลักษณะแนวโน้มชของผลรวมยอดขาย ซึ่งทำได้โดย แปลงผลรวมรายเดือนเพื่อให้คิดค่าเฉลี่ยผลรวมรายเดือนและของสองเดือนก่อนหน้าออกมาเป็นช่วงเวลาหนึ่ง

คุณจะเห็นยอดขายเฉลี่ยตามเส้นเวลาได้ ตัวอย่างเช่น ค่าที่แสดงสำหรับเดือนธันวาคม 2011 เป็นยอดขายเฉลี่ยของเดือนตุลาคม พฤศจิกายน และธันวาคม 2011 ค่าที่แสดงสำหรับเดือนมกราคม 2012 เป็นยอดขายเฉลี่ยของเดือนพฤศจิกายน และธันวาคม 2011 และมกราคม 2012

เพิ่มการคำนวณรอง

ด้วยการคำนวณตารางผลรวมสะสมและการคำนวณตารางการคำนวณแบบเคลื่อนที่ คุณมีตัวเลือกในการแปลงค่าสองครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่คุณต้องการ กล่าวคือ การเพิ่มการคำนวณตารางรองที่ด้านบนของการคำนวณตารางหลัก ตัวอย่างเช่น คุณสามารถเพิ่มการคำนวณตารางเริ่มต้นเพื่อคำนวณยอดรวมของยอดขายต่อเดือนภายในแต่ละปี จากนั้นจึงเพิ่มการคำนวณรองเพื่อคำนวณความแตกต่างของเปอร์เซ็นต์แบบปีต่อปีสำหรับแต่ละเดือนจากหนึ่งปีไปยังอีกปีหนึ่ง

สำหรับตัวอย่างแสดงวิธีการสร้างการคำนวณสำรอง ดูที่ การคำนวณจำนวนสะสม

การคำนวณเปอร์เซ็นต์ความแตกต่างจาก

การคำนวณตาราง เปอร์เซ็นต์ความแตกต่างจาก จะคำนวณความแตกต่างระหว่างค่าปัจจุบันและค่าอื่นในตารางเป็นเปอร์เซ็นต์สำหรับแต่ละเครื่องหมายในการแสดงเป็นภาพ

การคำนวณความแตกต่างจาก ความแตกต่างของเปอร์เซ็นต์จาก หรือเปอร์เซ็นต์จากจะทำให้มีสองค่าที่ควรพิจารณาอยู่เสมอ ได้แก่ ค่าปัจจุบันและค่าที่ควรคำนวณความแตกต่าง ในกรณีส่วนใหญ่ คุณต้องการคำนวณความแตกต่างระหว่างค่าปัจจุบันและค่าก่อนหน้า ดังเช่นในขั้นตอนด้านบน แต่ในบางกรณีคุณอาจต้องการสิ่งที่แตกต่างออกไป

หากต้องการระบุค่าที่ควรคำนวณความแตกต่าง ให้ทำดังนี้

  1. คลิกขวาที่การวัดผลในมุมมองและเลือกเพิ่มการคำนวณตาราง

  2. ในกล่องโต้ตอบ “การคำนวณตาราง” ให้เลือกตัวเลือกต่อไปนี้สำหรับสัมพันธ์กับ

    ก่อนหน้าคำนวณความแตกต่างระหว่างค่าปัจจุบันและค่าก่อนหน้าในขอบเขต นี่คือค่าเริ่มต้น
    ถัดไปคำนวณความแตกต่างระหว่างค่าปัจจุบันและค่าถัดไปในขอบเขต
    แรกคำนวณความแตกต่างระหว่างค่าปัจจุบันและค่าแรกในขอบเขต
    สุดท้ายคำนวณความแตกต่างระหว่างค่าปัจจุบันและค่าสุดท้ายในขอบเขต


ตัวอย่าง

พิจารณาตารางข้อความด้านล่าง ซึ่งแสดงยอดขายรวมต่อเดือนสำหรับปี 2011, 2012, 2013 และ 2014 ของเครือข่ายร้านค้าขนาดใหญ่

คุณสามารถใช้การคำนวณตาราง “เปอร์เซ็นต์ความแตกต่างจาก” เพื่อคำนวณลักษณะความผันผวนของยอดขาย (ลักษณะขึ้นหรือลง) ระหว่างปีของแต่ละเดือน ค่าจะถูกคำนวณเป็นเปอร์เซ็นต์

คุณจะเห็นว่าระหว่างเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ 2011 มียอดขายแตกต่างกัน -66% แต่ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม 2011 จะมีการปรับปรุงดีมากด้วยยอดขายเพิ่ม 1,058%

การคำนวณเปอร์เซ็นต์จาก

การคำนวณตารางเปอร์เซ็นต์จาก จะคำนวณค่าเป็นเปอร์เซ็นต์ของค่าอื่นบางค่า โดยทั่วไปเป็นเปอร์เซ็นต์ของค่าก่อนหน้าในตาราง สำหรับแต่ละเครื่องหมายในการแสดงเป็นภาพ

การคำนวณความแตกต่างจาก ความแตกต่างของเปอร์เซ็นต์จาก หรือเปอร์เซ็นต์จากจะทำให้มีสองค่าที่ควรพิจารณาอยู่เสมอ ได้แก่ ค่าปัจจุบันและค่าที่ควรคำนวณความแตกต่าง ในกรณีส่วนใหญ่ คุณต้องการคำนวณความแตกต่างระหว่างค่าปัจจุบันและค่าก่อนหน้า ดังเช่นในขั้นตอนด้านบน แต่ในบางกรณีคุณอาจต้องการสิ่งที่แตกต่างออกไป

หากต้องการระบุค่าที่ควรคำนวณความแตกต่าง ให้ทำดังนี้

  1. คลิกขวาที่การวัดผลในมุมมองและเลือกเพิ่มการคำนวณตาราง

  2. ในกล่องโต้ตอบ “การคำนวณตาราง” ให้เลือกตัวเลือกต่อไปนี้สำหรับสัมพันธ์กับ

    ก่อนหน้าคำนวณความแตกต่างระหว่างค่าปัจจุบันและค่าก่อนหน้าในขอบเขต นี่คือค่าเริ่มต้น
    ถัดไปคำนวณความแตกต่างระหว่างค่าปัจจุบันและค่าถัดไปในขอบเขต
    แรกคำนวณความแตกต่างระหว่างค่าปัจจุบันและค่าแรกในขอบเขต
    สุดท้ายคำนวณความแตกต่างระหว่างค่าปัจจุบันและค่าสุดท้ายในขอบเขต


ตัวอย่าง

พิจารณาตารางข้อความด้านล่าง ซึ่งแสดงยอดขายรวมต่อเดือนสำหรับปี 2011, 2012, 2013 และ 2014 ของเครือข่ายร้านค้าขนาดใหญ่

คุณสามารถใช้การคำนวณตาราง “เปอร์เซ็นต์จาก” เพื่อคำนวณเปอร์เซ็นต์ของค่าก่อนหน้า เช่น คุณสามารถคำนวณเปอร์เซ็นต์ของยอดขายเดือนมกราคม 2011 ที่ทำในเดือนกุมภาพันธ์ 2011

คุณจะเห็นว่าเดือนเดือนกุมภาพันธ์ 2011 มียอดเป็น 34% ของยอดขายในเดือนมกราคม 2011 มีนาคม 2011 ทำได้เพิ่ม 1,158% ของยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ เป็นต้น

การคำนวณเปอร์เซ็นต์ของทั้งหมด

สำหรับแต่ละเครื่องหมายในมุมมอง การคำนวณตาราง เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมด จะคำนวณค่าเป็นเปอร์เซ็นต์ของค่าทั้งหมดในพาร์ทิชั่นปัจจุบัน

ตัวอย่าง

พิจารณาตารางข้อความด้านล่าง ซึ่งแสดงยอดขายรวมต่อเดือนสำหรับปี 2011, 2012, 2013 และ 2014 ของเครือข่ายร้านค้าขนาดใหญ่

คุณสามารถใช้การคำนวณตาราง “เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมด” เพื่อคำนวณค่าเป็นเปอร์เซ็นต์ของยอดขายรวมแต่ละเดือนภายในไตรมาสได้ ตัวอย่าง คุณจะเห็นว่าเดือนมกราคม 2011 ทำได้คิดเป็น 18.73% ของไตรมาสที่ 1

หรือคุณสามารถคำนวณเปอร์เซ็นต์ของยอดขายรวมแต่ละเดือนภายในปีได้ ตัวอย่าง คุณจะเห็นว่าเดือนมกราคม 2011 ทำได้คิดเป็น 2.88% ของปี 2011

การคำนวณเปอร์เซ็นต์ไทล์

สำหรับแต่ละเครื่องหมายในมุมมอง การคำนวณตาราง เปอร์เซ็นต์ไทล์ จะคำนวณอันดับเปอร์เซ็นต์ไทล์สำหรับแต่ละค่าในพาร์ทิชั่น

ตัวอย่าง

พิจารณาตารางข้อความด้านล่าง ซึ่งแสดงยอดขายรวมต่อเดือนสำหรับปี 2011, 2012, 2013 และ 2014 ของเครือข่ายร้านค้าขนาดใหญ่

คุณสามารถใช้ตารางเปอร์เซ็นไทล์เพื่อจัดอันดับยอดขายรวมสำหรับแต่ละเดือนในปีเป็นเปอร์เซ็นต์ แทนจำนวนทั้งหมด (เช่น 1 ถึง 10)

เนื่องจากเดือนกุมภาพันธ์มียอดขายน้อยที่สุดในปี 2012 เมื่อเทียบกับยอดรวมทั้งหมด อันดับจึงเป็น 0.0% (หรือตัวเลข 1 จาก 12 เนื่องจากตัวอย่างนี้เป็นลำดับแบบจากน้อยไปหามาก ดังนั้นลำดับจึงเป็นน้อยสุดไปหามากสุด) ยอดขายในเดือนมกราคม 2012 สูงกว่าเล็กน้อยและดังนั้นจึงถูกจัดอันดับเป็น 9.1% (หรือตัวเลข 2 จาก 12) เนื่องจากเดือนพฤศจิกายนมียอดขายมากที่สุดในปี 2012 จึงมีอันดับเป็น 100% (หรือตัวเลข 12 จาก 12)

จากมากไปน้อย vs. จากน้อยไปมาก

ลำดับจากน้อยไปมากจะจัดอันดับจากน้อยที่สุดไปมากที่สุด ลำดับจากมากไปน้อยจะจัดอันดับจากมากที่สุดไปน้อยที่สุด

การคำนวณอันดับ

สำหรับแต่ละเครื่องหมายในมุมมอง การคำนวณตาราง อันดับ จะคำนวณการจัดอันดับสำหรับแต่ละค่าในพาร์ทิชั่น

ตัวอย่าง

พิจารณาตารางข้อความด้านล่าง ซึ่งแสดงยอดขายรวมต่อเดือนสำหรับปี 2011, 2012, 2013 และ 2014 ของเครือข่ายร้านค้าขนาดใหญ่

คุณสามารถใช้การคำนวณตารางอันดับเพื่อคำนวณการจัดอันดับของแต่ละเดือนในปี

คุณจะเห็นว่า เนื่องจากเดือนพฤศจิกายนมียอดขายมากที่สุดในปี 2012 จึงมีอันดับเป็น 1 (เนื่องจากอันดับเป็นลำดับจากมากไปหาน้อย หมายความว่าเป็นการจัดลำดับจากมากที่สุดไปหาน้อยที่สุด) เนื่องจากเดือนกุมภาพันธ์มียอดขายน้อยที่สุดในปี 2012 จึงมีอันดับเท่ากับ 12

จากมากไปน้อย vs. จากน้อยไปมาก

ลำดับจากน้อยไปมากจะจัดอันดับจากน้อยที่สุดไปมากที่สุด ลำดับจากมากไปน้อยจะจัดอันดับจากมากที่สุดไปน้อยที่สุด สำหรับการคำนวนตาราง “อันดับ” ค่าเริ่มต้นคือ จากมากไปหาน้อย

ประเภทอันดับ

ปัญหาหนึ่งกับการคำนวณh อันดับ คืออาจมีมากกว่าหนึ่งเครื่องหมายที่มีค่าเดียวกัน ตัวอย่างเช่น จะเป็นอย่างไรถ้าตารางในภูมิภาคกลางและเครื่องใช้ในภูมิภาคใต้มียอดขายเท่ากันพอดี $36,729 Tableau อนุญาตให้คุณระบุวิธีจัดการกับกรณีดังกล่าวโดยการรวมฟิลด์เพิ่มเติมลงในกล่องโต้ตอบ “การคำนวณตาราง” เมื่อคุณตั้งค่าt ประเภทการคำนวณ เป็น อันดับ

ตัวเลือกจะแสดงไว้ด้านล่าง ตัวเลขลำดับที่จุดเริามต้นของแต่ละตัวเลือกจะแสดงลักษณะการจัดอันดับของแต่ละตัวเลือกจากชุดของสมมติฐานสี่ค่าซึ่งสองค่าเท่ากันพอดี

ตัวเลือกผลลัพธ์
การแข่งขัน (1, 2, 2, 4)ค่าที่เหมือนกันถูกกำหนดให้อยู่ในอันดับที่เหมือนกัน ค่าสูงสุดจะได้รับการจัดอันดับเป็นอันดับ 1 และอีกสองค่าถัดไปซึ่งเป็นค่าที่เหมือนกันคืออันดับ 2 ค่าถัดไปจะอยู่ในอันดับที่ 4
แก้ไขการแข่งขัน (1, 3, 3, 4)ค่าที่เหมือนกันถูกกำหนดให้อยู่ในอันดับที่เหมือนกัน ค่าสูงสุดจะได้รับการจัดอันดับเป็นอันดับ 1 และอีกสองค่าถัดไปซึ่งเป็นค่าที่เหมือนกันคืออันดับ 3 ค่าถัดไปจะอยู่ในอันดับที่ 4
หนาแน่น (1, 2, 2, 3)ค่าที่ซ้ำกันจะมีอันดับเดียวกัน ซึ่งคือตัวเลขถัดไปในลำดับของการจัดอันดับ ค่าถัดไปหลังจากค่าที่ซ้ำกันถูกคำนวณเหมือนกับค่าที่ซ้ำกันเป็นค่าเดี่ยว
ไม่ซ้ำใคร (1, 2, 3, 4)ค่าที่ซ้ำกันจะถูกกำหนดอันดับที่ไม่ซ้ำกันตามการกำหนดทิศทางของการประมวลผลการจัดอันดับ

การคำนวณจำนวนสะสม

สำหรับแต่ละเครื่องหมายในมุมมอง การคำนวณตาราง ผลรวมสะสมจะรวมยอดค่าแบบสะสมในพาร์ทิชั่น ซึ่งสามารถทำได้ด้วยการรวมค่า การหาค่าเฉลี่ยของค่า หรือการแทนที่ค่าทั้งหมดด้วยค่าจริงที่ต่ำสุดหรือสูงสุด

สมมติว่าคุณกำลังเริ่มต้นด้วยมุมมองข้อความต่อไปนี้ ซึ่งแสดงยอดขายรวมแยกตามปี (จากซ้ายไปขวา) และตามไตรมาสและเดือน (จากบนลงล่าง)

คุณต้องการเห็นผลรวมสะสมของยอดขายสำหรับแต่ละปี ดังนั้นยอดขายของแต่ละเดือนจะถูกเพิ่มไปยังยอดขายของเดือนก่อนหน้าทั้งหมด แทนการใช้ค่ายอดขายที่สมบูรณ์

สร้างมุมมองพื้นฐาน

  1. เชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลตัวอย่าง - Superstore

  2. คลิกและลากฟิลด์วันที่สั่งซื้อในแผงข้อมูลไปยังแถบคอลัมน์

    ระดับวันที่เริ่มต้นคือ ปี(วันที่สั่งซื้อ)

  3. คลิกและลากวันที่สั่งซื้ออีกครั้งแล้ววางลงบนแถบแถวในครั้งนี้

  4. คลิกทางด้านขวาของฟิลด์เพื่อเปิดเมนูบริบท จากนั้นเลือกไตรมาส

    คุณจะเห็นตัวเลือกสองรายการที่ชื่อว่าไตรมาส อย่าลืมเลือกตัวเลือกแรก

    ตอนนี้ฟิลด์ควรแสดงเป็นไตรมาส(วันที่คำสั่ง)

    หมายเหตุ: หากคุณกำลังสร้างมุมมองบนเว็บ เมนูจะดูแตกต่างเล็กน้อย

  5. คลิกและลากวันที่สั่งซื้อครั้งที่สามและวางลงบนแถบแถวทางด้านขวาของไตรมาส(วันที่สั่งซื้อ)

  6. คลิกทางด้านขวาของฟิลด์เพื่อเปิดเมนูบริบทและเลือกเดือนในครั้งนี้ (อย่าลืมเลือกตัวเลือกแรกจากตัวเลือกสองรายการที่ชื่อว่าเดือน) ตอนนี้ฟิลด์ควรแสดงเป็นเดือน(วันที่สั่งซื้อ)

  7. ลากยอดขายจากแผงข้อมูลและวางลงบนข้อความในการ์ดเครื่องหมาย

ตอนนี้คุณมีมุมมองพื้นฐาน ซึ่งแสดงยอดขายตามวันที่สั่งซื้อในช่วงสี่ปี ตามเดือน ไตรมาส และปี

เพิ่มการคำนวณตารางยอดขายรวมสะสมไปยังมุมมองพื้นฐาน

  1. คลิก SUM(ยอดขาย) บนบัตรเครื่องหมาย แล้วเลือก เพิ่มการคำนวณตาราง

  2. ในกล่องโต้ตอบ “การคำนวณตาราง” เลือก จำนวนสะสม เป็น ประเภทการคำนวณ

  3. เลือก ตาราง (ลง) จากรายการ คำนวณโดยใช้

    การเน้นในมุมมองแสดงลักษณะของค่าของ คำนวณโดยใช้ กำหนดขอบเขตของการคำนวณในมุมมอง

    การเปรียบเทียบค่าในมุมมองข้อความเริ่มต้นกับค่าในมุมมองนี้แสดงให้เห็นว่าผลลัพธ์ถูกต้อง ค่ารายเดือนมีลำดับจากน้อยไปหามากอย่างคงที่และค่าเดือนธันวาคม (484,247) เป็นค่าเดียวกับที่คุณเห็นถ้าคุณแสดงคอลัมน์รวมทั้งหมด (จากเมนูการวิเคราะห์ เลือก ผลรวม > แสดงคอลัมน์รวมทั้งหมด)

  4. คลิก X ที่มุมบนขวาของกล่องโต้ตอบ “การคำนวณตาราง” เพื่อปิด

จำนวนสะสมไม่ต้องเป็นผลรวม

สำหรับการคำนวณตารางจำนวนสะสม Tableau สามารถอัปเดตค่าสะสมในวิธีอื่นที่นอกเหนือจากการคิดผลรวม เลือกตัวเลือกหนึ่งใดจากรายการแบบหล่นลงด้านล่างฟิลด์ ประเภทการคำนวณ

ตัวเลือกความหมาย
ผลรวมแต่ละค่าถูกเพิ่มไปยังค่าก่อนหน้า
เฉลี่ยจำนวนสะสมจะคิดค่าเฉลี่ยของค่าปัจจุบันและค่าก่อนหน้าทั้งหมด
ขั้นต่ำค่าทั้งหมดถูกแทนที่ด้วยค่าต่ำสุดในพาร์ทิชั่นเริ่มต้น
สูงสุดค่าทั้งหมดถูกแทนที่ด้วยค่าสูงสุดในพาร์ทิชั่นเริ่มต้น

ตัวเลือกการรีสตาร์ททุก

ตัวเลือกการรีสตาร์ททุกจะมีให้เลือกเมื่อคุณเลือกมิติข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงในกล่องโต้ตอบ “การคำนวณตาราง” และเมื่อมีการเลือกมิติข้อมูลมากกว่าหนึ่งรายการทันทีในฟิลด์ด้านล่างตัวเลือกคำนวณโดยใช้เท่านั้น นั่นคือ เมื่อมีการกำหนดมิติข้อมูลมากกว่าหนึ่งรายการเป็นฟิลด์การกำหนด

ตัวเลือกนี้จะไม่มีให้เลือกเมื่อคุณกำหนดการคำนวณตารางด้วยคำนวณโดยใช้

คุณสามารถใช้การตั้งค่านี้เพื่อกำหนดจุดแบ่ง (นั่นคือ การรีสตาร์ทการคำนวณ) ในมุมมอง ตามมิติข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงได้

การรีสตาร์ททุกจะเป็นประโยชน์ในสถานการณ์ต่อไปนี้

  • หากมีวันที่หรือลำดับชั้นอื่นๆ ในกรณีที่คุณรีสตาร์ททุกเดือน เมื่อคุณนำปีหรือไตรมาสเข้ามา Tableau จะรับทราบเพื่อแบ่งขอบเขตโดยอัตโนมัติ

  • หากไม่ใช่ลำดับชั้น การรีสตาร์ททุกจะส่งผลต่อการจัดเรียง หากคุณต้องการจัดการกับผลิตภัณฑ์และแบ่งขอบเขตตามรัฐ แต่ต้องการให้ผลิตภัณฑ์จัดเรียงตามผลรวม(ยอดขาย) ภายในแต่ละรัฐ คุณจะต้องระบุรัฐเป็นฟิลด์การกำหนดในส่วนมิติข้อมูลที่เฉพาะเจาะจง แต่หลังจากนั้นให้รีสตาร์ททุกรัฐ มิเช่นนั้น การจัดเรียงตามผลรวม(ยอดขาย) จะอิงตามผลรวมยอดขายผลิตภัณฑ์แต่ละรายการจากทุกรัฐ

ตัวอย่าง ถ้าคุณใช้ผลลัพธ์ของการคำนวณ จำนวนสะสม ที่คุณเพิ่มไว้ข้างต้น คุณจะเห็นผลกระทบของ เริ่มใหม่ทุกโดยทำดังต่อไปนี้

  1. คลิกฟิลด์ SUM(ยอดขาย) บนบัตรเครื่องหมาย แล้วเลือก แก้ไขการคำนวณตาราง

  2. ในกล่องโต้ตอบ “การคำนวณตาราง” เลือก มิติข้อมูลที่ระบุ

    สังเกตว่ามีมิติข้อมูลสองรายการถูกเลือกในกล่องกาเลือกของมิติข้อมูล: ไตรมาสของวันที่สั่งซื้อ และ เดือนของวันที่สั่งซื้อ เหล่านี้เป็นฟิลด์การกำหนดทิศทาง และเนื่องจากมีมากกว่าหนึ่งฟิลด์ถูกใช้สำหารับการกำหนดทิศทาง ดังนั้นการรีสตาร์ททุกครั้งจะพร้อมใช้งาน

    ตัวเลือกที่มีอยู่จากรายการแบบเลื่อนลงที่ระดับคือ:

    ไม่มีระบุว่าควรทำการคำนวณที่ระดับความละเอียดที่ละเอียดที่สุด นี่เป็นตัวเลือกเริ่มต้น ตัวเลือกนี้ไม่ได้เปลี่ยนมุมมอง
    ไตรมาสของวันที่สั่งซื้อระบุว่าควรทำการคำนวณที่ระดับไตรมาส
  3. ถ้าคุณเลือกไตรมาสของวันที่สั่งซื้อ มุมมองจะอัปเดตเพื่อแสดงผลของการเปลี่ยนแปลงนี้:

    ตอนนี้การคำนวณจะเริ่มใหม่ทุกไตรมาส ถ้าคุณคลิกกายกเลิกเลือกกล่องการคำนวณตาราง (เพื่อละทิ้วการเน้น) คุณจะเห็นได้ชัดเจนขึ้น

  4. คลิก X ที่มุมบนขวาของกล่องโต้ตอบ “การคำนวณตาราง” เพื่อปิด

เพิ่มการคำนวณรอง

ด้วยการคำนวณตารางผลรวมสะสมและการคำนวณตารางการคำนวณแบบเคลื่อนที่ คุณมีตัวเลือกในการแปลงค่าสองครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่คุณต้องการ กล่าวคือ การเพิ่มการคำนวณตารางรองที่ด้านบนของการคำนวณตารางหลัก ตัวอย่างเช่น คุณสามารถเพิ่มการคำนวณตารางเริ่มต้นเพื่อคำนวณยอดรวมของยอดขายต่อเดือนภายในแต่ละปี จากนั้นจึงเพิ่มการคำนวณรองเพื่อคำนวณความแตกต่างของเปอร์เซ็นต์แบบปีต่อปีสำหรับแต่ละเดือนจากหนึ่งปีไปยังอีกปีหนึ่ง

ซึ่งทำได้โดย อันดับแรกเพิ่มการคำนวณตารางหลักตามที่แสดงข้างบน จากนั้นดำเนินการต่อดังนี้:

  1. คลิกฟิลด์ SUM(ยอดขาย) บนบัตร “เครื่องหมาย” แล้วเลือก แก้ไขการคำนวณตาราง

  2. ในกลอ่งโต้ตอบ “การคำนวณตาราง” ให้คลิกเพิ่มการคำนวณรอง

    ในกลอ่งโต้ตอบ “การคำนวณตาราง” จะขยายเพื่อแสดงแผงที่สอง

  3. ในแผงที่สอง เลือก เปอร์เซ็นต์ความแตกต่างจาก เป็น ประเภทการคำนวณรอง

  4. คุณไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนการเลือก คำนวณโดยใช้ : ตาราง (ข้าม) เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม

  5. คลิก X ที่มุมบนขวาของกล่องโต้ตอบ “การคำนวณตาราง” เพื่อยกเลิกการเลือก

    ตอนนี้มุมมองของคุณจะแสดงสิ่งที่คุณต้องการ นั่นคือ ความแตกต่างของเปอร์เซ็นต์ปีต่อปีของผลรวมสะสม:

    ดูเพิ่มเติม

    สร้างการคำนวณตาราง

    ข้อมูลพื้นฐาน: กำหนดทิศทางและการกำหนดพาร์ทิชัน

ขอบคุณสำหรับข้อเสนอแนะของคุณส่งข้อเสนอแนะของคุณเรียบร้อยแล้ว ขอขอบคุณ