ผสมผสานข้อมูลของคุณ

การผสานข้อมูลเป็นวิธีหนึ่งในการรวมข้อมูลจากหลายแหล่ง การผสานข้อมูลจะนำข้อมูลอื่นๆ จากแหล่งข้อมูลรองและแสดงร่วมกับข้อมูลจากแหล่งข้อมูลหลักโดยตรงในมุมมอง

การผสานข้อมูลนั้นเป็นประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อความสัมพันธ์ที่ผสมผสาน หรือฟิลด์การเชื่อมโยงนั้นต้องแตกต่างกันไปในแต่ละชีต หรือเมื่อรวมแหล่งข้อมูลที่เผยแพร่แล้ว

ตัวเลือกในการรวมข้อมูล

มีวิธีมากมายในการรวมข้อมูล แต่ละวิธีนั้นมีข้อดีและข้อเสียของตนเอง

ความสัมพันธ์ เป็นวิธีตามค่าเริ่มต้น และสามารถใช้ได้กับอินสแตนซ์ส่วนใหญ่ รวมถึงการข้ามตารางร่วมกับระดับของรายละเอียด ความสัมพันธ์นั้นยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนให้เข้ากับโครงสร้างของการวิเคราะห์บนชีตได้ตามลักษณะของชีตได้ อย่างไรก็ตาม คุณไม่สามารถสร้างความสัมพันธ์ระหว่างตารางข้อมูลที่เผยแพร่ได้

ผสาน รวมตารางโดยการเพิ่มคอลัมน์ของข้อมูลให้กับเค้าโครงแถวที่เหมือนกันทั้งหมด วิธีนี้อาจทำให้เกิดการสูญหายของข้อมูลหรือการทำซ้ำได้หากตารางต่างๆ นั้นอยู่ในระดับรายละเอียดที่ต่างกัน และจะต้องสร้างการรวมก่อนจึงจะสามารถเริ่มการวิเคราะห์ได้ คุณไม่สามารถใช้แหล่งข้อมูลที่เผยแพร่ในการรวมได้

ผสมผสาน ต่างกับความสัมพันธ์หรือการรวม การผสมผสานนั้นจะไม่รวมข้อมูลเข้าด้วยกันได้โดยตรง แต่ในทางกลับกัน การผสมผสานจะสืบค้นแต่ละแหล่งข้อมูลโดยแยกกัน รวบรวมผลลัพธ์ในระดับที่เหมาะสม จากนั้นจะแสดงผลลัพธ์ร่วมกันในมุมมอง เนื่องด้วยเหตุนี้ การผสมผสานจึงสามารถใช้ได้กับระดับรายละเอียดมากมายและทำงานร่วมกับแหล่งข้อมูลที่เผยแพร่แล้วได้ด้วย การผสมผสานจะไม่สร้างแหล่งข้อมูลแบบผสมผสานใหม่ (จึงไม่สามารถเผยแพร่เป็น "แหล่งข้อมูลแบบผสม” ได้) แต่จะเป็นผลลัพธ์แบบผสมผสานที่แสดงเป็นภาพต่อชีต

ขั้นตอนในการผสานข้อมูล

การผสานข้อมูลจะดำเนินขึ้นในแต่ละชีตและจะสร้างขึ้นเมื่อฟิลด์จากแหล่งข้อมูลรองนั้นถูกใช้ในมุมมอง

หากต้องการสร้างการผสมผสานในเวิร์กบุ๊ก คุณต้องเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลอย่างน้อยสองแหล่ง จากนั้นจึงนำฟิลด์จากแหล่งข้อมูลหนึ่งไปยังชีต ซึ่งจะกลายเป็นแหล่งข้อมูลหลัก สลับไปยังอีกแหล่งข้อมูลและใช้ฟิลด์จากชีตเดียวกันนั้น และแหล่งข้อมูลนั้นจะกลายเป็นแหล่งข้อมูลรอง ไอคอนเชื่อมโยงจะปรากฏขึ้นที่แผงข้อมูล ซึ่งบ่งชี้ว่าได้ใช้งานฟิลด์ใดในการผสมผสานแหล่งข้อมูล

  1. โปรดแน่ใจว่าเวิร์กบุ๊กมีแหล่งข้อมูลหลายแหล่ง เพิ่มแหล่งข้อมูลรองโดยไปที่ ข้อมูล > แหล่งข้อมูลใหม่

    เคล็ดลับ: การผสมผสานจะต้องใช้แหล่งข้อมูลสองแหล่งขึ้นไป โดยเป็นรายการที่แยกกันในแผงข้อมูล การเพิ่มการเชื่อมต่อเพิ่มเติมไปยังแหล่งข้อมูลแรกจะทำให้เกิดความสัมพันธ์และการรวมที่หน้าแหล่งข้อมูล

  2. ลากฟิลด์มายังมุมมอง แหล่งข้อมูลนี้จะเป็นแหล่งข้อมูลหลัก
  3. สลับไปยังอีกแหล่งข้อมูลและตรวจสอบว่ามีความสัมพันธ์แบบผสมผสานอยู่กับแหล่งข้อมูลหลัก
    • หากมีไอคอนฟิลด์การเชื่อมโยง (ไอคอนลิงก์การผสมผสาน) ปรากฏอยู่ แหล่งข้อมูลนั้นจะถูกลิงก์โดยอัตโนมัติ ตราบใดที่มีลิงก์ที่ใช้งานได้อยู่อย่างน้อยหนึ่งลิงก์ก็สามารถผสานข้อมูลได้
    • หากมีไอคอนลิงก์เสีย (ไอคอนลิงก์การผสมผสานที่เสีย) ปรากฏอยู่ ให้คลิกที่ไอคอนที่อยู่ถัดจากฟิลด์นั้นซึ่งควรลิงก์แหล่งข้อมูลทั้งสองเข้าด้วยกัน เครื่องหมายทับจะหายไป ซึ่งแสดงว่าลิงก์ที่ใช้งานอยู่
    • หากไอคอนลิงก์ไม่ปรากฏขึ้นถัดจากฟิลด์ที่ต้องการ โปรดดู กำหนดความสัมพันธ์การผสานสำหรับการผสาน
  4. ลากฟิลด์มายังมุมมองจากแหล่งข้อมูลรอง

ทันทีที่มีการใช้งานแหล่งข้อมูลรองในมุมมองเดียวกันนั้น เท่ากับว่าได้มีการผสานเกิดขึ้น ในตัวอย่างด้านล่าง แหล่งข้อมูลหลักของเราคือ การดัดแปลงภาพยนตร์ และแหล่งข้อมูลรองคือ ร้านหนังสือ

  • แหล่งข้อมูลหลักนั้นจะบ่งชี้ด้วยเครื่องหมายติ๊กถูกสีน้ำเงินที่แหล่งข้อมูล ฟิลด์จากแหล่งข้อมูลหลักที่ใช้ในมุมมองนั้นจะไม่มีเครื่องหมายบ่งชี้
  • แหล่งข้อมูลรองจะบ่งชี้ด้วยเครื่องหมายติ๊กถูกสีส้มที่แหล่งข้อมูล และแถบสีส้มที่ด้านล่างของแผงข้อมูล ฟิลด์จากแหล่งข้อมูลรองที่ใช้ในมุมมองนั้นจะมีเครื่องหมายติ๊กถูกสีส้ม

แดชบอร์ดที่แสดงกราฟแผนภาพการกระจายที่เปรียบเทียบความยาวของภาพยนตร์กับจำนวนหน้า พร้อมชื่อเรื่องว่า "หนังสือที่ยาวกว่านั้นทำให้ภาพยนตร์ยาวกว่าหรือไม่"

ทำความเข้าใจแหล่งข้อมูลหลักและรอง

การผสานข้อมูลนั้นจะต้องมีแหล่งข้อมูลหลักและหนึ่งแหล่งข้อมูลรองเป็นอย่างน้อย แหล่งข้อมูลแรกที่ใช้ในมุมมองจะเป็นแหล่งข้อมูลหลักและเป็นตัวกำหนดมุมมอง ซึ่งอาจทำให้เกิดการจำกัดข้อมูลจากแหล่งข้อมูลรอง มีเพียงข้อมูลที่มีความเกี่ยวข้องกับแหล่งข้อมูลหลักเท่านั้นที่จะปรากฏในมุมมอง สามารถเปรียบเทียบได้กับการผนวกทางซ้าย

ตัวอย่างเช่น หากแหล่งข้อมูลหลักมรฟิลด์เดือนที่ประกอบไปด้วยเดือนเมษายน พฤษภาคม และมิถุนายน มุมมองใดๆ ที่สร้างโดยเกี่ยวข้องกับเดือนจะแสดงเพียงเดือนเมษายน พฤษภาคม และมิถุนายน แม้แหล่งข้อมูลรองจะมีเดือนครบทั้งสิบสองก็ตาม หากการวิเคราะห์ที่คุณต้องการนั้นมีสิบสองเดือน โปรดสลับการเลือกใช้แหล่งข้อมูลหลักโดยการสร้างชีตใหม่และใช้อีกแหล่งข้อมูลก่อน

เรียนรู้เพิ่มเติม: ผลกระทบของการเรียงแหล่งข้อมูล

การทำงานในแหล่งข้อมูลที่ผสาน

เนื่องจากธรรมชาติของการผสานข้อมูล จึงมีสิ่งที่คุณควรคำนึงถึงเมื่อทำงานร่วมกับแหล่งข้อมูลที่ผสาน

การทำการคำนวณกับฟิลด์จากแหล่งข้อมูลมากกว่าหนึ่งแหล่งนั้นอาจมีความแตกต่างจากการคำนวณทั่วไปเล็กน้อย ต้องสร้างการคำนวณในแหล่งข้อมูลเดียว ด้านบนของตัวแก้ไขการคำนวณจะระบุว่าการคำนวณนั้นอยู่ในแหล่งข้อมูลใด

  • การรวม ฟิลด์ใดๆ ที่ใช้จากแหล่งข้อมูลอื่นจะเข้าร่วมกันเป็นการรวม ซึ่งเป็นผลรวมตามค่าเริ่มต้น แต่สามารถแก้ไขได้ เนื่องจากการคำนวณไม่สามารถผสมอาร์กิวเมนต์ที่เป็นการรวบรวมและอาร์กิวเมนต์ที่ใช่การรวบรวมเข้าด้วยกันได้ ดังนั้นฟิลด์จากแหล่งข้อมูลโฮสต์ของการคำนวณนั้นก็จะต้องเป็นแบบรวบรวมไปด้วย (ที่ภาพด้านล่าง การรวม SUM ถูกเพิ่มเข้ามาโดยอัตโนมัติ และการรวม sum ถูกเพิ่มเข้ามาโดยผู้ใช้เอง)
  • Dot notation. ฟิลด์ใดที่ใช้อ้างอิงในการคำนวณที่เป็นของแหล่งข้อมูลอื่นจะอ้างอิงกับแหล่งข้อมูลนั้นๆ โดยใช้ Dot Notation (ที่ภาพด้านล่าง สำหรับการคำนวณที่สร้างใน ตัวอย่าง - Superstore ฟิลด์เป้าหมายยอดขายกลายเป็น [Sales.Targets].[Sales Target] เมื่อการคำนวณถูกสร้างใน Sales Targets ฟิลด์ยอดขายจะกลายเป็น [ตัวอย่าง - Superstore].[Sales])
  • ซึ่งเป็นเวอร์ชันที่เหมือนกันกับการคำนวณเดียวกันที่สร้างในแต่ละแหล่งข้อมูล ในทั้งสองกรณี จะเท่ากับ SUM(ยอดขาย) / SUM(เป้าหมายยอดขาย)

หน้าต่างการคำนวณสำหรับสูตรที่คำนวณเปอร์เซ็นต์ของเป้าหมายการขาย หน้าต่างการคำนวณสำหรับสูตรที่คำนวณเปอร์เซ็นต์ของเป้าหมายการขาย

นอกเหนือจากการจัดการกับการคำนวณแต่ละแบบโดยต่างกันแล้ว ยังมีข้อกำหนดบางประการกับแหล่งข้อมูลรองด้วย คุณอาจไม่สามารถทำการจัดเรียงตามฟิลด์จากแหล่งข้อมูลรองได้ และตัวกรองการดำเนินการอาจไม่สามารถทำงานได้ตามที่คาดกับข้อมูลที่ผสาน หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดู ปัญหาการผสมผสานข้อมูลอื่นๆ

กำหนดความสัมพันธ์การผสานสำหรับการผสาน

เพื่อให้ Tableau รู้ว่าควรจะผสานข้อมูลจากหลายแหล่งอย่างไร จึงจำเป้นจะต้องมีมิติข้อมูลที่ตรงกันหรือมิติข้อมูลระหว่างแหล่งข้อมูลทั้งสอง มิติข้อมูลที่ตรงกันนั้นเรียกว่าฟิลด์ที่เชื่อมโยงกัน ฟิลด์ที่เชื่อมโยงกันที่ใช้งานได้นั้นจะระบุไว้ที่แผงข้อมูลสำหรับแหล่งข้อมูลรอง พร้อมกับไอคอนลิงก์ที่ใช้งานได้ (ไอคอนลิงก์การผสมผสาน) และฟิลด์ที่สามารถลิงก์ได้จะระบุโดยมีไอคอนลิงก์ที่เสียหาย (ไอคอนลิงก์การผสมผสานที่เสีย) ฟิลด์การเชื่อมโยงไม่ได้ระบุไว้ในแหล่งข้อมูลหลัก

ตัวอย่างเช่น ในการผสานข้อมูลธุรกรรมและโควตา ฟิลด์ข้อมูลภูมิศาสตร์ควรจะเป็นฟิลด์เชื่อมโนง เพื่อให้คุณสามารถวิเคราะห์ทั้งโควต้าและประสิทธิภาพที่มีต่อโควตานั้นๆ ได้

หมายเหตุ: เพื่อให้การผสานทำงานได้ ฟิลด์ที่เชื่อมโยงควรจะมีค่าหรือสมาชิกที่เหมือนกันด้วย Tableau จะสร้างมุมมองของข้อมูลที่ผสานจากข้อมูลที่มีร่วมกัน ตัวอย่างเช่น หาก สี เป็นฟิลด์ที่เชื่อมโยงกันในแหล่งข้อมูลทั้งสอง Tableau จะจับคู่ข้อมูล “สีม่วง” จากแหล่งข้อมูลหลักและ “สีม่วง” จากแหล่งข้อมูลรอง แต่ “สีฟอ.” จะไม่ถูกแมปเข้ากับ “สีฟ้าอ่อน” อย่างถูกต้อง ดังนั้นควรจะต้องแก้ไขชื่อของฝั่งใดฝั่งหนึ่ง เช่นเดียวกับการเปลี่ยนชื่อฟิลด์เพื่อให้ Tableau สามารถระบุฟิลด์ที่เชื่อมโยงกันได้ คุณก็สามารถเปลี่ยนชื่อแทนของสมาชิกในฟิลด์เหล่านั้นได้ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดู สร้างชื่อแทนเพื่อเปลี่ยนชื่อสมาชิกในมุมมอง

สร้างการเชื่อมโยง

หากฟิลด์ที่เชื่อมโยงในแหล่งข้อมูลหลักและแหล่งข้อมูลรองนั้นมีชื่อเหมือนกัน Tableau จะสร้างความสัมพันธ์ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ เมื่อได้สร้างแหล่งข้อมูลหลักขึ้นมาแล้ว (ซึ่งก็คือฟิลด์ที่ใช้ในมุมมอง) และได้เลือกแหล่งข้อมูลรองที่แผงข้อมูลแล้ว ฟิลด์ใดๆ ที่มีชื่อเหมือนกันระหว่างทั้งสองแหล่งข้อมูลจะแสดงไอคอนลิงก์ (ไอคอนลิงก์การผสมผสาน หรือ ไอคอนลิงก์การผสมผสานที่เสีย) ในแหล่งข้อมูลรอง หากฟิลด์ที่เกี่ยวข้องจากแหล่งข้อมูลหลักนั้นถูกใช้ในมุมมอง ลิงก์ก็จะทำงานโดยอัตโนมัติ

หากไม่มีไอคอนลิงก์ที่แหล่งข้อมูลรอง คุณอาจจะต้องช่วยให้ Tableau สร้างลิงก์ด้วยหนึ่งในสองวิธีต่อไปนี้: 

  1. หากมิติข้อมูลที่มีเหมือนกันนั้นไม่ได้มีชื่อเหมือนกัน (เช่น “ชื่อเรื่อง” และ “ชื่อหนังสือ”) การเปลี่ยนชื่อฝั่งใดฝั่งหนึ่งจะทำให้ Tableau รู้ว่าทั้งสองนั้นเป็นมิติข้อมูลที่มีเหมือนกันและสร้างลิงก์ขึ้นมา

  2. นอกจากนั้น คุณยังสามารถกำหนดความสัมพันธ์ระหว่างฟิลด์ได้ด้วยตนเองในแหล่งข้อมูลหลักและรอง ดูด้านล่างหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสร้างความสัมพันธ์ลิงก์ด้วยตนเอง

โดยสามารถมีฟิลด์ที่เชื่อมโยงกันที่ทำงานอยู่หรืออาจเป็นไปได้ได้มากกว่าหนึ่ง ตามความจำเป็น คลิกที่ไอคอนลิงก์ที่เสียหาย (ไอคอนลิงก์การผสมผสานที่เสีย) ที่แผงข้อมูลเพื่อทำให้ความสัมพันธ์ทำงาน

การกำหนดความสัมพันธ์การเชื่อมโยงด้วยตนเอง

การเชื่อมโยงมากกว่าหนึ่้ง

เช่นเดียวกับความสัมพันธ์หรือการรวม บางครั้งการเชื่อมโยงระหว่างแหล่งข้อมูลนั้นก็เกิดขึ้นมากกว่าหนึ่งฟิลด์ ตัวอย่างเช่น หากโควตายอดขายของภูมิภาคนั้นเป็นแบบรายเดือน การผสานระหว่างข้อมูลยอดขายแบบธุรกรรมและข้อมูลโควต้าจะต้องมีทั้งตามภูมิภาคและตามแต่ละเดือนเพื่อสร้างข้อมูลที่ถูกต้องและนำมาร่วมกันในมุมมอง คุณสามารถสร้างการเชื่อมโยงได้หลายรายการในเวลาเดียวกัน

เรียนรู้เพิ่มเติมที่ผลกระทบของฟิลด์การเชื่อมโยงมากกว่าหนึ่ง

ความแตกต่างระหว่างการรวมและการผสานข้อมูล

การผสานข้อมูลนั้นจะสร้างการผนวกทางซ้ายแบบดั้งเดิม ข้อแตกต่างสำคัญของทั้งสองคือเมื่อเกิดการรวมขึ้น การรวมจะรวมข้อมูลเข้าด้วยกันและรวมผลบวก การผสานจะรวมและทำให้ข้อมูลอยู่ด้วยกัน

ผนวกทางซ้าย

เมื่อคุณใช้การผนวกทางซ้ายเพื่อรวมข้อมูล จะมีการส่งการสืบค้นไปยังฐานข้อมูลที่เกิดการผนวกขึ้น การผนวกทางซ้ายจะส่งคืนแถวทั้งหมดจากตารางทางซ้ายและแถวที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจากตารางทางขวา ผลลัพธ์ของการผนวกจะถูกส่งกลับไปยัง Tableau และรวมเข้าด้วยกันเพื่อแสดงเป็นภาพ

การผนวกทางซ้ายจะใช้แถวทั้งหมดจากตารางทางซ้าย จะส่งคืนค่าคอลัมน์ที่มีร่วมกันคือ ID ผู้ใช้และ ID Patron ที่มีข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากตารางจากขวา หรือไม่เช่นนั้นก็จะเป็นค่า null

ตารางแสดง ID ผู้ใช้, เขต, ระดับ และประเภท แผนภาพเวนน์ที่มีวงกลมสองวง วงหนึ่งเป็นสีน้ำเงินและอีกวงหนึ่งเป็นสีขาว ตารางแสดงสาขา, ID ผู้ใช้, เขต และระดับ ไอคอนเครื่องหมายเท่ากับ ตารางแสดง ID ผู้ใช้, เขต, ระดับ, สาขา และประเภท

 

สมมติว่าคุณมีตารางที่เหมือนกัน แต่การจัดลำดับตรงข้ามกัน การผนวกทางซ้ายใหม่จะให้ผลลัพธ์ที่ไม่เหมือนกัน และอีกครั้ง การผนวกทางซ้ายจะรวมข้อมูลทั้งหมดจากตารางใหม่ทางซ้าย แต่จะไม่สนใจแถวทั้งหมดจากตารางทางขวา แถวของตารางซึ่งเป็น ID ผู้ใช้ = 4 จะไม่ถูกรวมไว้เนื่องจากไม่มีแถวของ Patron ID = 4 ที่ตารางด้านซ้าย

ตารางแสดงสาขา, ID ผู้ใช้, เขต และระดับ แผนภาพเวนน์ที่มีวงกลมสองวง วงหนึ่งเป็นสีน้ำเงินและอีกวงหนึ่งเป็นสีขาว ตารางแสดง ID ผู้ใช้, เขต, ระดับ และประเภท ไอคอนเครื่องหมายเท่ากับ ตารางแสดง ID ผู้ใช้, เขต, ระดับ, สาขา และประเภท

การผสานข้อมูล

เมื่อคุณใช้การผสานข้อมูลในการรวมข้อมูล จะมีการส่งการสืบค้นไปยังฐานข้อมูลสำหรับแต่ละแหล่งข้อมูลที่ใช้ในชีตนั้น ผลลัพธ์ของการสืบค้นจะถูกส่งกลับไปยัง Tableau และรวมเข้าด้วยกันเพื่อแสดงร่วมกันเป็นภาพ

หมายเหตุ: การรวมการวัดผลนั้นตรงไปตรงมา เราสามารถใช้ผลรวม ค่าเฉลี่ย สูงสุด หรือการรวมตัวเลขอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย ค่าที่วัดนั้นจะถูกรวมตามวิธีที่รวมฟิลด์ในมุมมอง อย่างไรก็ตาม ฟิลด์ทั้งหมดจากแหล่งข้อมูลรองจะต้องถูกรวมด้วย แล้วจะเป็นเช่นไรกับมิติข้อมูล ค่าของมิติข้อมูลจะถูกรวมโดยใช้ฟังก์ชันการรวม ATTR ซึ่งจะคืนค่าเดี่ยวของแถวทั้งหมดในแหล่งข้อมูลรอง หากมีค่าหลายค่าอยู่ในแถวเหล่านั้น จะมีการแสดงเครื่องหมายดอกจันทน์ (*) ไว้ โดยสามารถตีความได้ว่า “มีค่าหลายค่าในแหล่งข้อมูลรองสำหรับสัญลักษณ์นี้ในมุมมอง”

มุมมองจะใช้ค่าทั้งหมดจากแหล่งข้อมูลหลัก (ทำหน้าที่เป็นตารางทางซ้าย) และแถวที่เกี่ยวข้องจากแหล่งข้อมูลรอง (ตารางทางขวา) ตามฟิลด์การเชื่อมโยง

สมมติว่าคุณมีตารางต่อไปนี้ ฟิลด์ที่เชื่อมโยงคือ ID ผู้ใช้ และ Patron ID ไม่ใช่ทุกค่าที่สามารถเป็นส่วนหนึ่งของตารางผลลัพธ์ได้ เนื่องจากต่อไปนี้

  • แถวของตารางด้านซ้ายไม่มีแถวที่เกี่ยวข้องที่เข้าคู่กับตารางด้านขวา ตามที่ระบุโดยค่า null ในผลลัพธ์

  • มีค่าที่เกี่ยวข้องหลายค่าในแถวในตารางด้านขวา ตามที่ระบุด้วยเครื่องหมายดอกจันทน์ (*) ในผลลัพธ์

ตารางแสดง ID ผู้ใช้, เขต, ระดับ และประเภท ไอคอนลิงก์แบบโซ่ ตารางแสดงสาขา, ID ผู้ใช้, เขต และระดับ ไอคอนเครื่องหมายเท่ากับ ตารางแสดงข้อมูล ID ผู้ใช้, เขต, ระดับ, สาขา และประเภท

เมื่อมีการวัดผลมาเกี่ยวข้อง การวัดผลนั้นจะถูกรวมด้วย ดังที่เห็นดังต่อไปนี้

ตารางแสดง ID ผู้ใช้, เขต, ระดับ และประเภท ไอคอนลิงก์แบบโซ่ ตารางสองตารางพร้อมลูกศรระบุว่าค่าในตารางจะผสมผสาน ไอคอนเครื่องหมายเท่ากับ ตารางจะแสดง ID ผู้ใช้, เขต, ระดับ, ประเภท, สาขา และค่าปรับ

สำคัญ: เครื่องหมายดอกจันทนฺ์ (*) ในมุมมองที่มีข้อมูลที่ผสานนั้นบ่งชี้ถึงค่าหลายค่า ซึ่งสามารถแก้ไขได้โดยการยืนยันว่ามีค่าที่เข้าคู่กันค่าเดียวในแหล่งข้อมูลรองสำหรับแต่ละสัญลักษณ์ในแหล่งข้อมูลหลัก โดยสามารถทำได้โดยการสลับแหล่งข้อมูลหลักและรอง หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดู แก้ปัญหาการผสานข้อมูล

การผสานข้อมูลในทันที

  • การผสานข้อมูลนั้นเกิดขึ้นที่แต่ละชีตโดยแยกกัน
  • ลำดับการใช้ฟิลด์จะเป็นตัวกำหนดว่าแหล่งข้อมูลใดที่เป็นแหล่งข้อมูลหลัก และแหล่งข้อมูลใดที่เป็นแหล่งข้อมูลรอง
  • แหล่งข้อมูลหลักจะบ่งชี้ด้วยเครื่องหมายติ๊กถูกสีฟ้า และแหล่งข้อมูลรองและฟิลด์จากแหล่งข้อมูลรองจะกำกับด้วยเครื่องหมายติ๊กถูกสีส้ม
  • จะสามารถระบุฟิลด์ที่เชื่อมโยงได้โดยอัตโนมัติโดยอ้างอิงจากชื่อฟิลด์ที่เชื่อมโยงหรือสามารถสร้างความสัมพันธ์ในการผสานได้โดยกำหนดเอง
  • การผสานข้อมูลนั้นมีการทำงานคล้ายกับการผนวกทางซ้าย ซึ่งอาจทำให้เกิดการสูญหายของข้อมูลจากแหล่งข้อมูลรองได้
  • อาจปรากฏเครื่องหมายดอกจันทน์ (*) ได้ ซึ่งบ่งชี้ว่ามีค่ามิติข้อมูลหลายค่าในสัญลักษณ์เดียว เนื่องจากการผสานข้อมูลนั้นจะใช้ผลลัพธ์การรวมและรวมผลลัพธ์นั้นเข้าในมุมมอง
  • สามารถใช้แหล่งข้อมูลรองเพื่อเปลี่ยนชื่อแทนค่าฟิลด์ในแหล่งข้อมูลหลักได้ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดู ตั้งชื่อแทนค่าฟิลด์โดยใช้การผสานข้อมูล

ข้อจำกัดของการผสานข้อมูล

  • มีข้อจำกัดในการผสานข้อมูลการรวมที่ไม่ใช่การเพิ่ม เช่น COUNTD, MEDIAN และ RAWSQLAGG หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดู แก้ปัญหาการผสานข้อมูล
  • ไม่สามารถเผยแพร่แหล่งข้อมูลที่ผสานเป็นหน่วยได้ แต่ในทางกลับกัน สามารถเผยแพร่แหล่งข้อมูลโดยแยกกัน (ไปยังเซิร์ฟเวอร์เดียวกัน) และผสานแหล่งข้อมูลที่เผยแพร่ไปแล้วนั้นได้
  • ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลรองจะต้องเป็นค่ารวมในการคำนวณเสมอ
  • หากคุณผสานแหล่งข้อมูล Cube แหล่งข้อมูลนั้นจะต้องเป็นแหล่งข้อมูลหลัก