เพิ่มประสิทธิภาพสำหรับการเข้าชมของผู้ใช้

คุณสามารถเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อทราฟฟิกได้หากคุณมีผู้ใช้ Tableau Server ที่ใช้งานอยู่หลายรายและมีแหล่งข้อมูลที่เผยแพร่ที่ต้องรีเฟรชการแยกข้อมูลเพียงไม่กี่รายการ

หมายเหตุ: หัวข้อนี้จะใช้เวิร์กบุ๊กประสิทธิภาพตัวอย่างจากส่วนการตรวจสอบ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดู วิเคราะห์ข้อมูลด้วยเวิร์กบุ๊กประสิทธิภาพตัวอย่าง

เมื่อใดที่ควรเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อทราฟฟิกของผู้ใช้

เวลาในการโหลดมุมมองช้า

ใช้แดชบอร์ดคำขอและเซสชันของเวิร์กบุ๊กประสิทธิภาพตัวอย่างเพื่อวิเคราะห์ว่ามุมมองต้องใช้เวลาโหลดนานเพียงใด

หากมุมมองหลายรายการใช้เวลาโหลดนานกว่า 10 วินาที และเวลาในการโหลดช้าสอดคล้องกับเซสชันจำนวนมาก อาจระบุได้ว่าทราฟฟิกของผู้ใช้ทำให้เซิร์ฟเวอร์ช้าลง

แต่หากมีบางมุมมองใช้เวลาในการโหลดนานไม่ว่าจะดูแบบใดก็ตาม ถือเป็นสัญญาณที่บอกว่าจำเป็นต้องเพิ่มประสิทธิภาพเวิร์กบุ๊กของมุมมองดังกล่าว คุณสามารถระบุเวิร์กบุ๊กที่ต้องปรับประสิทธิภาพได้ด้วยมุมมองสำหรับการดูแลระบบ ข้อมูลสถิติสำหรับเวลาการโหลด วิธีง่ายๆ ในการเพิ่มประสิทธิภาพของเวิร์กบุ๊กจะประกอบด้วยการแสดงข้อมูลในแต่ละมุมมองให้น้อยลงหรือการแบ่งมุมมอง การลดจำนวนตัวกรอง และการใช้การแยกข้อมูล

การใช้ทรัพยากรสูงซึ่งสอดคล้องกับทราฟฟิกของผู้ใช้

หากเซิร์ฟเวอร์ของคุณแสดงการใช้ CPU และหน่วยความจำสูงระหว่างชั่วโมงที่มีทราฟฟิกสูงสุด คุณควรเพิ่มประสิทธิทราฟฟิกของผู้ใช้ หากต้องการกำหนดชั่วโมงที่มีทราฟฟิกสูงสุดและวิเคราะห์ว่ามีผู้ใช้พร้อมกันในเซิร์ฟเวอร์ของคุณกี่ราย ให้ใช้แดชบอร์ดผู้ใช้และการดำเนินการ นอกจากนี้คุณสามารถใช้มุมมองสำหรับการดูแลระบบ การเข้าชมไปยังมุมมอง เพื่อดูว่ามีผู้ใช้กี่รายที่เกี่ยวข้องกับการเข้าถึงมุมมอง (ซึ่งเป็นสิ่งตรงกันข้ามกับการดำเนินการตามฟังก์ชันการดูแลระบบ การเผยแพร่ หรืองานอื่นๆ)

หากคุณคลิกที่จุดในมุมมองจำนวนผู้ใช้ แดชบอร์ดจะแสดงผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่ในขณะนั้นและจำนวนของการกระทำที่ผู้ใช้เหล่านั้นดำเนินการ การดำเนินการของผู้ใช้เพียงอย่างเดียวที่ปรากฏตามค่าเริ่มต้นคือมุมมองของผู้ใช้ แต่คุณสามารถใช้ตัวกรองประเภทการดำเนินการเพื่อแสดงการดำเนินการเพิ่มเติมของผู้ใช้ได้

ให้บันทึกเวลาในแต่ละวันที่มีผู้ใช้ในเวลาเดียวกันและมุมมองเป็นจำนวนมากเพื่อที่คุณจะสามารถเปรียบเทียบข้อมูลนี้กับการใช้ทรัพยากรได้ หลักง่ายๆ คือจำนวนผู้ใช้ต้องสอดคล้องกับจำนวนการดำเนินการของผู้ใช้จำนวนมาก แต่มุมมองในตัวอย่างนี้คือการแสดงจำนวนการดำเนินการของผู้ใช้จำนวนมากเกินความเป็นจริงสำหรับผู้ใช้รายเดียวโดยเป็นส่วนหนึ่งของการทดสอบรุ่นของการโหลด ตัวอย่างเช่นคุณสามารถเปรียบเทียบจำนวนยอดผู้ชมสูงสุด ณ เวลา 0.00 น. ของวันที่ 28 มิถุนายนกับการใช้ทรัพยากรในแดชบอร์ดที่แสดงในภายหลัง

ใช้แดชบอร์ด การใช้งาน CPU เพื่อแสดงเปอร์เซ็นต์ของการใช้งาน CPU ทั้งหมด และเปอร์เซ็นต์ของการใช้งาน CPU สำหรับแต่ละกระบวนการ ในตัวอย่างต่อไปนี้ ให้บันทึกการใช้งาน CPU โดยรวมสูงสุดในกระบวนการของ VizQL Server ณ เวลา 0.00 น. ของวันที่ 28 มิถุนายน กระบวนการของ VizQL Server มักจะเป็นกระบวนการที่แสดงความตึงเครียดภายใต้ทราฟฟิกของผู้ใช้จำนวนมากออกมาเป็นรายการแรกเนื่องจากการโหลดกระบวนการของ VizQL Server และการแสดงมุมมอง

หมายเหตุ: เปอร์เซ็นการใช้งาน CPU ของกระบวนการแต่ละรายการอาจเพิ่มขึ้นได้มากกว่า 100 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากการใช้งานโปรเซสเซอร์สำหรับกระบวนการแต่ละรายการจะมีการวัดผลสำหรับคอร์โปรเซสเซอร์ที่กำหนด ในทางตรงกันข้าม ระบบจะวัดการใช้งาน CPU ทั้งหมดสำหรับคอร์โปรเซสเซอร์ทั้งหมด

ใช้แดชบอร์ดการใช้งานหน่วยความจำเพื่อแสดงเปอร์เซ็นต์ของการใช้งานหน่วยความจำทั้งหมด และเปอร์เซ็นต์ของการใช้งานหน่วยความจำโดยเฉลี่ยเป็นกิกะไบต์ การใช้งานหน่วยความจำจะเพิ่มขึ้นอย่างคงที่ตามทราฟฟิกของผู้ใช้ซึ่งเป็นกฎที่ทราบกันโดยทั่วไป ซึ่งเป็นอีกครั้งที่กระบวนการของ VizQL Server เป็นสิ่งแรกที่แสดงความตึงเครียดภายใต้ทราฟฟิกจำนวนมากออกมา

วิธีเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อทราฟฟิกของผู้ใช้

เมื่อทราฟฟิกผู้ใช้จำนวนมากสอดคล้องกับการใช้ทรัพยากรจำนวนมากของผู้ใช้เหมือนกับในตัวอย่างที่แสดงไว้ก่อนหน้านี้ คุณควรเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับทราฟฟิกของผู้ใช้

ปรับเปลี่ยนจำนวนกระบวนการของ VizQL Server

วิธีเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับทราฟฟิกของผู้ใช้ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดคือการปรับเปลี่ยนจำนวนกระบวนการของ VizQL Server เพิ่มกระบวนการของ VizQL Server หนึ่งรายการต่อครั้งแล้ววัดผลกระทบด้วยการตรวจสอบประสิทธิภาพเพิ่มเติม เนื่องจากกระบวนการของ VizQL Server สามารถใช้ CPU และหน่วยความจำเป็นจำนวนมากได้ การเพิ่มกระบวนการต่างๆ มากเกินไปอาจทำให้เซิร์ฟเวอร์ช้าลง เมื่อคุณสังเกตเห็นการใช้หน่วยความจำเป็นจำนวนมากอย่างคงที่ ให้ลองลดจำนวนกระบวนการของ VizQL Server เพื่อลดปริมาณหน่วยความจำที่สำรองไว้

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระบวนการกำหนดค่า โปรดดู กำหนดค่าโหนด

ปรับเปลี่ยนจำนวนกระบวนการอื่นๆ

แม้ว่าวิธีเพิ่มประสิทธิภาพทราฟฟิกของผู้ใช้ที่ดีที่สุดคือการปรับเปลี่ยนจำนวนกระบวนการของ VizQL Server แต่คุณก็สามารถปรับแต่งกระบวนการอื่นๆ ที่สนับสนุนกระบวนการของ VizQL Server หรือที่ป้องกันไม่ให้กระบวนการของ VizQL Server เข้าถึงทรัพยากร ตัวอย่างเช่น กระบวนการของ VizQL Server ส่งคำขอให้กับกระบวนการเซิร์ฟเวอร์ของแคชอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นคุณอาจต้องเพิ่มจำนวนกระบวนการเซิร์ฟเวอร์ของแคชด้วย อีกทางหนึ่งคือกระบวนการแบ็กกราวเดอร์อาจขัดแย้งทรัพยากร CPU กับกระบวนการของ VizQL Server ได้ ด้วยเหตุนี้หากคุณไม่ต้องการเรียกใช้การรีเฟรชการแยกข้อมูลเป็นประจำ คุณอาจลดจำนวนของกระบวนการสำหรับแบ็กกราวเดอร์ได้ หากคุณต้องการอินสแตนซ์เพิ่มเติมของแบ็กกราวเดอร์ และหากคุณเรียกใช้ Tableau Server บนคลัสเตอร์ คุณสามารถย้ายกระบวนการแบ็กกราวเดอร์ไปยังโหนดเฉพาะได้

ปรับเปลี่ยนขีดจำกัดการหมดเวลาของเซสชัน VizQL

ในตัวอย่างที่แสดงไว้ก่อนหน้านี้ ปริมาณหน่วยความจำที่กระบวนการ VizQL Server ใช้งานจะเพิ่มขึ้นตามทราฟฟิกของผู้ใช้ และจะมีการสำรองไว้โดย Tableau Server ในบางครั้งหลังทราฟฟิกสิ้นสุด เนื่องจากกระบวนการ VizQL Server สำรองหน่วยความจำไว้ให้แต่ละเซสชันสำหรับเวลาตามที่กำหนด หากกระบวนการ VizQL Server ใช้เปอร์เซ็นต์หน่วยความทรงจำที่มีให้ใช้งานเป็นจำนวนมาก ให้ลองลดการหมดเวลาของแต่ละเซสชันเพื่อทำให้หน่วยความจำพร้อมใช้งานได้เร็วขึ้น 

หากต้องการทำสิ่งนี้ให้ใช้คำสั่ง เซตใน tsm configuration เพื่อลดการตั้งค่า vizqlserver.session.expiry.timeout ค่าเริ่มต้นคือ 30 นาที

รีเฟรชแคชน้อยลง

หากผู้ใช้ของคุณไม่ต้องการข้อมูลที่เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ คุณสามารถเพิ่มประสิทธิภาพทราฟฟิกผู้ใช้ด้วยการกำหนดค่า Tableau Server เพื่อแคชและใช้ข้อมูลอีกครั้งให้ได้มากที่สุดเท่าที่ทำได้

หากต้องการทำสิ่งนี้ให้ใช้คำสั่ง tsm data-access caching list เพื่อยืนยันความถี่ของการรีเฟรช ค่าเริ่มต้นคือ Low ใช้คำสั่ง tsm data-access caching set เพื่อเปลี่ยนความถี่ของการรีเฟรช

ประเมินการตอบสนองของมุมมอง

เมื่อผู้ใช้เปิดมุมมอง ระบบจะดึงข้อมูลและตีความมุมมองก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นจึงแสดงเว็บเบราว์เซอร์ของผู้ใช้ สำหรับมุมมองส่วนใหญ่ เฟสการแสดงผลจะเกิดขึ้นในเว็บเบราว์เซอร์ของผู้ใช้ และในกรณีส่วนใหญ่เฟสนี้จะให้ผลลัพธ์ที่เร็วที่สุดและการตอบสนองแบบโต้ตอบในระดับสูงสุด การดำเนินการกับการโต้ตอบส่วนใหญ่ในเว็บเบราว์เซอร์ไคลเอ็นต์จะลดแบนด์วิดท์และขจัดเวลาหน่วงของคำขอแบบไปกลับ หากมุมมองมีความซับซ้อนสูง Tableau Server จะจัดการกับเฟสการแสดงผลบนเซิร์ฟเวอร์แทนเว็บเบราว์เซอร์ไคลเอ็นต์ เพราะโดยทั่วไปจะให้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุด หากคุณพบว่ามุมมองไม่ตอบสนองดั่งที่คุณต้องการ คุณสามารถทดสอบและเปลี่ยนแปลงเกณฑ์ที่ทำให้มุมมองแสดงผลด้วยเซิร์ฟเวอร์แทนการแสดงผลในเว็บเบราว์เซอร์ไคลเอ็นต์ได้ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดู กำหนดค่าการแสดงผลฝั่งไคลเอ็นต์

ขอบคุณสำหรับข้อเสนอแนะของคุณส่งข้อเสนอแนะของคุณเรียบร้อยแล้ว ขอขอบคุณ